การเข้ามาตรวจสอบของ สตง. พบ ข้อมูลพิรุธของโครงการ ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น กลางปี 2558 ผู้ว่าฯกทม.ได้ออกนโยบาย โครงการประดับไฟเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่บริษัทจิปาถะ ไอเดีย จำกัด ได้ยื่นขอจดทะเบียนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อเพิ่มวัตถุประสงค์จำหน่ายไฟประดับ
เช่นเดียวกับ บริษัท คิวริโอ ทัวร์ แอนด์ แทรเวิล จำกัด ที่ยื่นขอจดทะเบียนเพิ่มวัตถุประสงค์จำหน่ายไฟประดับเช่นเดียวกัน
เดือน พฤศจิกายน 2558 อดีต ผอ.สำนักงบประมาณของ กทม. ขออนุมัติ งบฉุกเฉินจำนวน 40 ล้านบาทสำหรับโครงการนี้ โดยมีรองผู้ว่าฯ กทม. จุมพล สำเภาพล เป็นผู้อนุมัติงบประมาณในวันเดียวกัน
ธ.ค.2558 ผอ.สำนักวัฒนธรรม แจ้งกำหนดวันเสนอราคาให้เร็วขึ้น จากเดิม วันที่ 22 ธ.ค.เป็นวันที่ 17 ธ.ค.โดยมีเอกชนยื่นซองเอกสารเพียง 2 ราย คือ บริษัท คิวริโอ และ บริษัทสรรค์สร้างจำกัด ก่อนที่คิวริโอ จะได้เป็นผู้ชนะการประมูล
ในจุดนี้เอง ที่ สตง. ได้พบพิรุธว่า บริษัท คิวริโอฯ ได้นำเข้าโคมไฟฟ้า LED ครบเซ็ทจากประเทศจีน ตั้งแต่วันที่10 ธันวาคม ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 7 วันก่อนถึงวันเสนอราคา
เหล่านี้เป็นประเด็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ สตง.มีข้อสังเกตว่า อาจจะมีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทผู้รับงาน รวมถึงบริษัท คิวริโอ ที่ชนะการประมูลได้แม้จะไม่เคยประกอบกิจการในลักษณะนี้มาก่อน อีกหนึ่งปมใหญ่ ที่ สตง. ตั้งคำถาม คือ การใช้งบฉุกเฉินมาทำโครงการ ซึ่งเป็นเครื่องหมายคำถามว่า เป็นการใช้งบผิดประเภทหรือไม่
หลังจากนี้ ข้อมูลการตรวจสอบทั้งหมด จะถูกส่งต่อไปยัง ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการสอบสวนในเชิงลึกต่อไป ขณะเดียวกัน คู่ขัดแย้งของ กทม.อย่างอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ วิลาศ จันทร์พิทักษ์ ได้เสนอให้รัฐบาลใช้ มาตรา 44 เพื่อพักการทำงาน ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ รวมถึงการดำเนินดคีกับ 2 รองผู้ว่าฯ กทม. เพิ่มเติมต่อจากนี้ จึงต้องจับตาว่า มหากาพย์ การตรวจสอบไฟลานคนเมือง 38 ล้าน จะเดินต่อไปในทิศทางใด และมาตรา 44 จะถูกนำมาใช้เพื่อเรื่องนี้ เป็นการพิเศษหรือไม่