คสช.แจงรวบ"ตู่-เต้น"เหตุเคลื่อนไหวการเมือง

--30 พ.ย. 58--พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ชี้แจงกรณีจนท.ควบคุมตัวนายจตุพร พรมพันธุ์ และนายณัฐวุติ ใสเกื้อ แกนนำนปช.ที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร ว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วว่าเป็นการพยายามเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างชัดเจนพฤติกรรมเริ่มจากการป่าวประกาศ เชิงชี้นำ ในทำนองปลุกปั่นให้เกิดความไม่เรียบร้อยได้ เจ้าหน้าที่คงให้ดุลพินิจจากพฤติกรรมจากหลายวาระ รวมทั้งการกล่าวต่อสาธารณะ โดยใช้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนมาตลอด โดยเฉพาะการอ้างใช้คำว่า "ทุจริต" ซึ่งหน่วยงานหรือผู้มีหน้าที่โดยตรงยังไม่มีใครกล่าวถึง เป็นการใช้เพียงความรู้สึกทั้งสิ้น ในปัจจุบันจะเห็นว่าภาครัฐไม่ได้นิ่งนอนใจเมื่อสังคมต้องการทราบ หลาย ๆ หน่วยงานก็กำลังร่วมกันดำเนินการภายใต้ขอบเขตความรับผิดชอบเพื่อคลี่คลายไขความกระจ่างให้

พ.อ.วินธัย กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการตั้งข้อสังเกตดูในเรื่องการให้ข้อมูลใด ๆ ไปกับสังคมถ้ายังไม่มีข้อพิสูจน์ใดๆ ที่สมบูรณ์ชัดเจน แล้วมีบุคคลใดนำมาใช้กล่าวอ้างจนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กร จะมีการใช้มุมทางกฎหมายเข้ามาพิจารณาดำเนินการอย่างจริงจัง ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของ นายจตุพร และนายณัฐวุฒิ ในลักษณะเช่นนี้ ไม่น่าเกิดประโยชน์ต่อกระบวนการไขความกระจ่างเพราะไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ ทำให้หลายฝ่ายเคลือบแคลงในท่าทีที่อาจดูไม่ต่างจากรูปแบบเดิม ๆ ซึ่งมิได้เกิดประโยชน์ใด ๆ ต่อสังคมอย่างแท้จริง และในความเป็นจริงทุกคนที่สนใจในเรื่องนี้ สามารถติดตามได้ตลอดจากช่องทางที่เหมาะสมต่างๆ
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 วันเจ้าหน้าที่จาก กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลทั้งสอง พร้อมกับโทรศัพท์ไปเจรจาขอความร่วมมือไม่ให้เคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเฉพาะการเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์พร้อมกับกลุ่มมวลชน เพราะเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองมีความผิดตามมาตรา 44 ตามกฎหมาย ซึ่งเมื่อเช้านี้ (30พ.ย.)เจ้าหน้าที่ยังได้โทรศัพท์ไปขอร้องว่า อย่าเคลื่อนไหวแต่ก็ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะเข้าใจดี แต่พอถึงเวลาจริง ๆ กลับมีการนัดรวมตัวกันที่ตลาดมหาชัยเมืองใหม่ เจ้าหน้าที่ทหารจึงมีความจำเป็นต้องเข้าไปควบคุมตัวเพื่อไปพูดคุยปรับความเข้าใจตามมาตรา 44 และควบคุมตัวไว้ในสถานที่เหมาะสมคาดว่าไม่เกิน 7 วัน ถ้าพูดคุยกันรู้เรื่องก็อาจจะปล่อยตัวออกมาก่อนก็เป็นได้

ทั้งนี้ กกล.รส.อยากขอความร่วมมือกับประชาชนอย่าพยายามออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านใด ๆ เพราะขณะนี้รัฐบาลและคสช.กำลังดำเนินการในเรื่องต่างๆเพื่อนำไปสู่ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และเป็นไปตามโรดแม็ปของรัฐบาลที่จะต้องมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นจึงไม่อยากให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง

ก่อนหน้าที่จะถูกควบคุมตัว นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ให้สัมภาษณ์ว่าที่ตนจะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ ก็เพื่อไปสังเกตุการณ์ดำเนินการการต่างๆรวมทั้งไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ยืนยันว่าเราไม่มีเจตนาต้องแอบแฝงทางการเมืองแต่อย่างใด แล้วก็ไม่มีการเคลื่อนขบวนมวลชนไม่มีการแสดงออกกิจกรรมในเชิงสัญลักษณ์แต่อย่างใด นอกเหนือจากการไปสักการะและสังเกตุการณ์บริเวณโดยรอบเท่านั้นเอง เสร็จสิ้นแล้วจะเดินทางกลับทันที
นายณัฐวุฒิ บอกอีกว่า ตนก็อยากกราบเรียนไปทางรัฐบาลและผู้มีอำนาจว่า พวกตนไม่มีเจตนาเป็นปฎิปักษ์และไม่มีเจตนาที่ใช้ประเด็นนี้เป็นเกมการเมืองเพื่อไปกดดันหรือเผชิญหน้ากับรัฐบาล เป็นแต่เพียงเราเห็นว่า เหตุการณ์ล่วงเลยมาจนถึงทุกวันนี้ประชาชนต้องการทราบความจริง จากโครงการอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้น ที่จะทำให้ทุกอย่างคลี่คลายไปได้
ตนคิดว่าสิ่งที่พวกผมกำลังดำเนินการอยู่ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลด้วยซ้ำเพราะการที่ประชาชนลุกขึ้นมามีส่วนร่วมในการตรวจสอบประเด็นเรื่องการทุจริตอันนี้ น่าจะเป็นเรื่องที่รัฐบาลถือเป็นประโยชน์และจะให้ความชัดเจนแก่ประชาชนได้