ศาลฎีกานักการเมืองยังไม่ชี้ความผิด "ทักษิณ" คดีทุจริตกรุงไทยปล่อยกู้

นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงการตัดสินคดีปล่อยกู้ ธ.กรุงไทยฯ เอื้อประโยชน์เครือกฎษดามหานคร ที่มีการฟ้องอดีตผู้บริหารธนาคาร และเอกชน รวม 27 ราย โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ที่ 1 ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งมีการพูดถึงพยานปากหนึ่งที่เบิกความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับ บิ๊กบอส หรือซุปเปอร์บอส ในการอนุมัติสินเชื่อให้เอกชนว่า การจะมีความเห็นสั่งฟ้องคดี อัยการก็ต้องมีหลักฐานที่เพียงพอ
ทั้งนี้ เนื้อหาคำฟ้องในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากจะเสียรูปคดีขณะที่แหล่งข่าวสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงเรื่องเดียวกันนี้ว่า การตัดสินศาลฎีกาฯ ได้วินิจฉัยในประเด็นที่จำเลยอื่น มีส่วนร่วมกระทำผิดหรือไม่เท่านั้น โดยคดีนี้ศาลยังไม่ได้วินิจฉัยความผิดที่อัยการแจ้งข้อหากับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งตามหลักการ หากภายหลังติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ ศาลก็จะพิจารณาพฤติการณ์ในส่วนของพ.ต.ท.ทักษิณ อีกครั้ง ซึ่งการไต่สวนศาลสามารถสอบถามประเด็นที่สงสัยเพิ่มเติมได้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อมีการยื่นฟ้องคดีนี้แล้วในปี 2555 แต่ระหว่างนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ หลบหนีคดี ศาลจึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับและจำหน่ายชั่วคราวเฉพาะของพ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ตั้งแต่ปี 2555 ส่วนจำเลยอื่นอีก 26 รายที่มีทั้งผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ผู้บริหารบริษัทเอกชน และนิติบุคคลที่ได้รับประโยชน์จากการปล่อยกู้ ศาลได้วินิจฉัยพยานหลักฐานตามคำฟ้องของอัยการและสำนวนของป.ป.ช. กระทั่งมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยให้จำคุกจำเลยทั้งหมด 19 รายเป็นเวลา 12-18 ปี และปรับบริษัทนิติบุคคล พร้อมทั้งให้จำเลยที่เกี่ยวข้องชดใช้เงินค่าเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท คืนให้กับ ธ.กรุงไทยฯ