แคนดิเดตว่าที่ ผบ.ตร.

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่มีโอกาสได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่มีอยู่ 5 คน ไล่ตามลำดับอาวุโส
คนแรกคือ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ นายร้อยอบรมรุ่น 7 (นบ.รบ.7) เกษียณปี 2599 มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เป็นที่ยอมรับในแวดวงยุติธรรม ในรอบปีที่ผ่านมามีบทบาทสำคัญในการปราบปรามเครือข่ายค้ามนุษย์ภาคใต้ มีการดำเนินคดีผู้ต้องหาที่เกี่ยวพันกับการนำพาชาวโรฮิงญาผ่านไทยไปประเทศที่สามได้เกือบร้อยรายในจำนวนนั้นมี พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบกรวมอยู่ด้วย
คนต่อมาคือพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ นายร้อยตำรวจรุ่น 31 (นรต.31) เกษียณปี 2559 เพื่อนร่วมรุ่นของ พล.ต.อ.สมยศ และ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม มีบทบาทในงานด้านปราบปรามยาเสพติด เคยผ่านงานสำคัญในฐานะเลขาธิการ ป.ป.ส. แต่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามพรรคเพื่อไทย จึงถูกมองว่าใกล้ชิดขั้วการเมืองเก่าทำให้โอกาสได้รับการเสนอชื่อเป็นไปได้น้อย
พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ นายร้อยการฝึกอบรมรุ่น 3 (กอส.3) เกษียณปี 2560 น้องชายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นักการเมืองคนดังแห่ง จ.นครราชสีมา มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรตำรวจเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อาเซี่ยนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน นายร้อยตำรวจรุ่น 35 เกษียณปี 2562 บุตรเขย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีบทบาทในงานด้านปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่มีความใกล้ชิดกับนักการเมืองขั้วเก่า และมีอายุราชการอีกหลายปี การแต่งตั้งครั้งนี้จึงยังไม่น่าใช่เวลาของเขา
คนสุดท้าย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา นายร้อยตำรวจรุ่น 36 เกษียณปี 2563 ซึ่งได้รับความไว้วางใจจาก พล.ต.อ.สมยศ มากที่สุด ตลอดปีที่ผ่านมาได้รับมอบหมายให้คุมงานด้านความมั่นคง เป็นหัวหน้าทีมสืบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำคดีสำคัญอย่างคาร์บอมสมุย และเหตุระเบิดในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร รวมถึงคดีอื้อฉาวอย่างฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า มีเพียง 2 รายเท่านั้นที่มีโอกาสได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ คนแรกคือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมือประสาน 10 ทิศ เป็นน้องรักคนหนึ่งของบ้าน วงษ์สุวรรณ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ หนุนอยู่ เพราะทำงานใกล้ชิดกับพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร.น้องชายของ พล.อ.ประวิตร มาโดยตลอด
ส่วนอีกคนคือ พล.ต.อ.เอก ซึ่งมีคำสัญญาลูกผู้ชายในการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ครั้งที่ผ่านมา ในครั้งนั้นมีเงื่อนไขในการต่อรองเรื่องให้ พล.ต.อ.สมยศ รั้งเก้าอี้ ผบ.ตร.ก่อนเพราะมีเวลาเพียงปีเดียวก็จะเกษียณ หลังจากนั้น พล.ต.อ.เอก จะแทนที่ เพราะเหลือเวลาอายุราชการมากกว่า 1 ปี
พล.ต.อ.เอก เป็นที่ไว้ใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะมีความสนิทสนมกันส่วนตัวทั้งในฐานะรุ่นน้องโรงเรียนวัดนวลนรดิศ และเพื่อนสนิทของน้องชายอย่าง พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชาซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ แสดงให้เห็นแล้วในการมอบหมายให้ พล.ต.อ.เอก รับผิดชอบเรื่องการปราบปรามการค้ามนุษย์ที่เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของรัฐบาลก่อนหน้านี้