svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ป๋าชื่น"ยื่นพยาน 6 ปาก สู้คดีร่วมกับน้อง"ธาริต" อ้างเบื้องสูงออกโฉนดทับที่ทหาร

03 สิงหาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก - 3 ส.ค. 58 ป๋าชื่น กก.เขาใหญ่เบเวอร์ลี่ฮิลล์ ให้การปฏิเสธสู้คดี ถูกกล่าวหาร่วม น้องชาย ธาริต แอบอ้างเบื้องสูงออกโฉนดทับซ้อนที่ทหาร พร้อมนำพยาน 6 ปากสู้คดี ขณะที่อัยการเตรียมพยาน 12 ปากเบิกความ


เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลนัดพร้อมและตรวจพยานหลักฐานคดีหมิ่นเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.1716/2558 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายบุญธรรม หรือป๋าชื่น บุญเทพประทาน อายุ 65 ปี กรรมการผู้มีอำนาจ บริษัทบ้านชุมทอง จำกัด และบริษัทเขาใหญ่ เบเวอร์ลี่ฮิลล์ จำกัด เป็นจำเลย ในความผิดฐาน หมิ่นประมาท ดูหมิ่นองค์รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112อัยการโจทก์บรรยายฟ้องว่า ระหว่างปี 2550 ปี 2551 วันเวลาใด ไม่ปรากฏชัด ที่ดินบริเวณเขาหนองเชื่อม ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีบางส่วน มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสุงชัน บางส่วนเป็นพื้นที่ทับซ้อน กับที่ดินที่ทางฝ่ายทหารที่มีหนังสือขอใช้พื้นที่อย่างเป็นทาง เมื่อปี 2534 และบางส่วนเป็นพื้นที่ ที่คณะกรรมการจัดสรรที่ดินแห่งชาติ ได้กันไว้เป็นพื้นที่ทดแทนพื้นที่ต้นน้ำ ที่ดินบริเวณดังกล่าวจึงไม่สามารถออกโฉนดที่ดินได้ แต่ต่อมา นายบุญธรรม จำเลย ซึ่งเป็นเจ้าของ และเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ บจก.บ้านชุมทอง และ บจก.เขาใหญ่ฯ ที่ประกอบธุรกิจจัดสรรทิ่ดินและค้าขายที่ดิน มีความประสงค์จะนำที่ดินบริเวณดังกล่าว มาขอออกโฉนดที่ดินเพื่อจัดสรรขายให้ผู้ที่ต้องการซื้อที่ดินไปปลูกบ้านพักตากอากาศในราคาสูงทำกำไรได้มาก ซึ่งนายบุญธรรม จำเลย ได้ร่วมมือกับนายเสฏฐวุฒิ หรือตั๊ก เพ็งดิษฐ์ จำเลยคดีหมายเลขดำ อ.1666/2558 ที่เป็นนายหน้าค้าที่ดิน ให้ไปดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินบริเวณดังกล่าว เนื้อที่หลายร้อยไร่ คำฟ้องระบุด้วยว่า นายบุญธรรม จำเลย ได้พูดกับนายเสฏฐวุฒิ โดยมีถ้อยคำบางตอนที่อ้างว่า มีความสนิทสนมกับ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีต รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) และ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. หากนายเสฏฐวุฒิ มีปัญหาหรืออุปสรรคขั้นตอนใดๆ ในการขอ ออกโฉนดที่ดิน ก็ให้มาบอกกล่าวกับ นายบุญธรรม จำเลย ได้ทันที ซึ่งถ้อยคำนั้น เป็นการแอบอ้าง จาบจ้วง ล่วงเกิน ที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อองค์รัชทายาท และต่อมายังได้พูดแอบอ้างกับ นายเสฏฐวุฒิ อีกโดยมีเจตนาชัดเจนที่ต้องการแอบอ้างรัชทายาท เพื่อให้ตนเองสมประโยชน์ เหตุเกิดที่ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาโดยวันนี้ (3 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัว นายบุญธรรม หรือป๋าชื่น มาจากเรือนจำ เพื่อร่วมกระบวนพิจารณา ซึ่งมีภรรยา บุตร และญาติสนิท มาให้กำลังใจด้วยขณะที่ศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องโดยย่อให้จำเลยฟังแล้วสอบคำให้การ นายบุญธรรม จำเลย ยืนกรานให้การปฏิเสธตามเอกสารคำให้การที่ยื่นต่อศาลวันนี้ ระบุว่า จำเลย ไม่ได้กระทำการแอบอ้างดังกล่าว ซึ่งทนายความจำเลย ได้แถลงต่อศาล ตรียมพยานนำสืบต่อสู้คดี รวม 6 ปาก ส่วนอัยการโจทก์ แถลงมีพยานที่จะนำสืบ 12 ปาก อาทิ ผู้กล่าวหาคดีนี้ พนักงานสอบสวน พร้อมยื่นเอกสารรวม 37 ฉบับ และแผ่นดีวีดี บันทึกเกี่ยวกบับข้อมูลข่าวเรื่องที่ดินทับซ้อนดังกล่าวศาลพิจารณาแล้ว จึงอนุญาตให้อัยการโจทก์ และจำเลย นำสืบพยานตามที่แถลง โดยให้อัยการโจทก์ ใช้เวลานำสืบรวม 3 นัด ส่วนจำเลย ใช้เวลานำสืบ 1 นัด กำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกในวันที่ 16 ก.พ. 59ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายเสฏฐวุฒิ หรือตั๊ก เพ็งดิษฐ์ อายุ 52 ปี อาชีพนายหน้าค้าที่ดิน น้องชายนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นั้น อัยการฝ่ายคดีอาญา 9 ได้ยื่นฟ้องเป็นจำเลยในความผิดฐานเดียวกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 12 พ.ค.58 โดยชั้นพิจารณา นายเสฏฐวุฒิ ให้การรับสารภาพ ศาลจึงมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 14 พ.ค.58 ว่า นายเสฏฐวุฒิ กระทำผิดจริง ตาม ม.112ให้จำคุก5ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษกึ่งหนึ่ง จึงจำคุก 2 ปี 6 เดือน

logoline