เปิดคำขอแก้ รธน.ในกลุ่มสังคมและพลเมือง

กลุ่มนี้นำโดย นพ.พลเดช ปิ่นประทีป และสมาชิกรวม 27 คน ซึ่งกำลังเร่งเครื่องประชุมระดมความเห็นสมาชิกในกลุ่ม สำหรับเนื้อหาคำขอแก้ไขฯ ของกลุ่มนี้ มีทั้งสิ้น 71 ข้อ โดยมีทั้ง ตัด เติม และเพิ่มบทบัญญัติขึ้นใหม่ สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

1.ส่งเสริมความเสมอภาคและสมดุลระหว่างเพศ ในมาตรา 34 เพิ่มถ้อยคำให้ การแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการในองค์กรต่างๆ ที่รัฐธรรมนูญกำหนดต้องมีสัดส่วนเพศตรงข้ามไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 โดยให้เหตุผลว่า มุมมองต่างเพศเป็นกลไกสำคัญในการพิจารณาและดำรงความเป็นธรรมในสังคม
2.ให้มีการสนับสนุนการทำงานของสื่อมวลชนที่ไม่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำ ขอให้เพิ่มถ้อยคำในมาตรา 48 กำหนดให้ รัฐต้องเปิดเผยการจัดสรรงบประมาณที่ใช้ในการโฆษณา และกำหนดให้รายจ่ายส่วนดังกล่าวต้องไม่เกิน10%ของบประมาณแต่ละปี
3. ขอให้เขียนส่งเสริมความเข้มแข็งของสังคมอย่างมีคุณภาพตามหลักการประชาธิปไตย โดยมาตราที่เกี่ยวข้องกับองค์กรที่มีหน้าที่เป็นสื่อ นำข้อมูล ความรู้ต้องคำนึงคุณภาพ และประโยชน์ที่จะได้รับ ส่วนประเด็นการจำกัดการชุมนุมของประชาชน ให้มีเพียงเงื่อนไขเดียวคือ การชุมนุมที่กระทบความมั่นคงปลอดภัย ขณะที่กรณีการรับฟังความเห็นประชาชนต่อการดำเนินนโยบายรัฐ หากประชาชนไม่เห็นด้วย กำหนดให้รัฐต้องทบทวนเพื่อปรับปรุง หรือยุติการดำเนินการ

และกำหนดให้เพิ่มมาตรา 59/1 ให้สิทธิบุคคลฟ้องหน่วยราชการ, หน่วยงานรัฐ, รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่น หรืออค์กรของรัฐที่เป็นนิติบุคคล ให้รับผิดเพราะการกระทำหรือการละเว้นการกระทำของข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงาน เพื่อให้ประชาชนได้สิทธิในการตรวจสอบหน่วยงานรัฐและอื่นๆ ที่ไม่ทำตามกฎหมาย
4.เรื่องที่มา ส.ว. ให้มี 200 คน โดยมาจากการสรรหาทั้งหมดตามกลุ่มอาชีพ-ผู้ทรงคุณวุฒิและคุณธรรม พร้อมปรับลดอำนาจของส.ว. ในการถอดถอน นายกฯ รัฐมนตรี และ ส.ส. ซึ่งมาจากการเลือกของประชาชน โดยพ่วงแก้ไขมาตรา 253 ว่าด้วยการถอดถอนบุคคลที่มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ ใช้อำนาจที่ขัดต่อกฎหมาย โดยตัดส่วน นายกฯ รัฐมนตรี และ ส.ส. ออกเพื่อให้ ส.ว.มีอำนาจถอดถอนเฉพาะบุคคลในองค์กร หรือหน่วยงานที่ ส.ว.แต่งตั้ง
5.คุณสมบัติของ ส.ว. ส.ส. และรัฐมนตรี เติมประเด็นการประกอบอาชีพโดยสุจริตที่มีรายได้ในเกณฑ์การเสียภาษีไม่น้อยกว่า 5 ปี และแสดงแบบรายการเสียภาษีย้อนหลัง 5 ปี โดยในส่วนของรัฐมนตรี เพิ่มข้อกำหนดให้ต้องแสดงแบบรายการเสียภาษีย้อนหลัง 5 ปี โดยไม่มีข้อยกเว้นแก่ผู้ใด
6.หมวดปฏิรูป ให้คงเฉพาะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปแห่งชาติไว้เพื่อดำเนินการติดตาม-ต่อยอดการปฏิรูป ด้านกรรมการปรองดอง ได้ขอตัดอำนาจการตราพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษออกนอกจากกลุ่ม สังคม และพลเมืองแล้ว กลุ่มอื่นๆ ก็จะทยอยส่งข้อเสนอ ซึ่งจะเป็นโจทย์ให้กรรมาธิการยกร่างนำไปแก้ไขในอีก 3 เดือนข้างหน้า