svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"บิ๊กตู่" ชี้ 1 ปีที่ผ่านมาแค่หนังตัวอย่าง

22 พฤษภาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"บิ๊กตู่" แจงสื่อต่างประเทศครบรอบ 1 ปีรัฐประหาร ยันไม่เข้าไปก้าวก่ายการเลือกตั้ง ลั่นไม่ได้อยากอยู่ในอำนาจ ย้ำจำเป็นต้องคงมาตรา 44 หากไม่มีทำงานไม่ได้-ไม่ใช้ในทางที่ผิด ชี้ 1 ปีที่ผ่านมาแค่หนังตัวอย่าง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี การรัฐประหาร โดยยืนยันว่าไม่ได้คัดค้าน ก้าวก่าย หรือทำให้กระบวนการที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งของไทย ต้องล่าช้าออกไป เพราะกระบวนการทุกอย่างจะเป็นไปตามโรดแม็พที่วางไว้
"ผมไม่ได้อยากอยู่ในอำนาจ แต่เพราะเป็นคนเดียวที่สามารถรับมือกับปัญหาที่ประเทศไทยเผชิญอยู่ในขณะนั้นได้ และยืนยันด้วยว่าประเทศไทย จะกลับคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ประชาธิปไตยจะเข้มแข็ง ยั่งยืน ก้าวหน้าและทัดเทียมประเทศอื่น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนการใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) ที่ให้อำนาจหัวหน้า คสช.ในการป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อย หรือความมั่นคงของชาติ ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นภายในหรือภายนอกราชอาณาจักรนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า มีไว้เพื่อความจำเป็นในการทำงาน เพราะถ้าไม่ใช้มาตรานี้ ก็จะทำงานไม่ได้เลย โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการทำงาน แต่ยืนยันว่าไม่เคยใช้อำนาจในทางที่ผิด ไปทำร้ายใคร ไปฆ่าหรือประหารชีวิตใคร
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ไม่เคยต่อต้านประชาธิปไตยและที่ผ่านมา ก็ให้การสนับสนุนทุกรัฐบาลมาโดยตลอด แต่ประเด็นสำคัญคือ รัฐบาลชุดก่อนหน้า ไม่สามารถเดินหน้าประเทศต่อไปได้ ขณะนี้เรามีโรดแม็พไปสู่ประชาธิปไตย หลังจากนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และเมื่อโปรดเกล้าฯ ลงมาแล้ว ก็จะนำไปสู่การเลือกตั้ง
ต่อข้อถามว่า จะแน่ใจได้อย่างไรว่าประเทศไทยจะไม่กลับไปอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกับก่อนหน้ารัฐประหารอีก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มั่นใจในสิ่งที่กำลังทำอยู่ในเวลานี้ แต่จะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชนคนไทย ที่ต้องตัดสินอนาคตของตัวเอง
ทั้งนี้ การเลือกตั้งของไทยอาจต้องเลื่อนออกไปอีกอย่างน้อย 3-4 เดือน ภายหลังจากที่ประชุมร่วมคณะรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เห็นชอบให้มีการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้มีการทำประชามติ
ที่กระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน "มิติใหม่การศึกษา เดินหน้าประเทศไทย" โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า การทำงานที่ผ่านมาอาจจะมีคนเกลียดบ้าง รักบ้าง แต่ตนต้องทำ ไม่ได้ภูมิใจที่เข้ามา วันนี้เข้ามาในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่ต้องสร้างประวัติศาสตร์ประเทศใหม่ นำสิ่งที่ไม่ดีในประวัติศาสตร์มาเป็นบทเรียนในการกำหนดอนาคตที่ดีกว่าเดิม และขณะนี้มีรัฐบาลมา 6 เดือน พอตั้งตัวได้ ก็เริ่มเอน เพราะทุกกระทรวงมีปัญหาทั้งหมด แต่ก็ไม่เลวร้าย ที่เข้ามาไม่คิดว่าปัญหาจะเยอะขนาดนี้ แต่เชื่อว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้
หากทุกคนช่วยกัน และตนก็นำการบริหารแบบทหารมาใช้ โดยนำกฎหมายที่มีอยู่แล้วมาใช้อย่างจริงจังเท่านั้น และไม่เคยมีปัญหากับใครทั้งนั้น โดยเฉพาะสื่อที่จะต้องช่วยกัน สื่อไม่ใช่ศัตรู แต่ควรนำเสนอข่าวทั้งสองด้าน แบ่งเส้นระหว่างเสรีภาพกับสิทธิผลประโยชน์ของชาติให้ได้ แต่การจะเอากฎหมายมากำหนดเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก จึงต้องคำนึงถึงการอยู่ร่วมกันโดยไม่ขัดแย้ง และให้มีการเรียนรู้ด้านกฎหมายตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ระดับประถม จะบอกว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้มองว่าคนไทยยังไม่มีความร่วมมือกัน ยังไม่รู้ว่าจะมีการปฏิรูปได้เมื่อใด คิดจะเอาแต่รัฐธรรมนูญ ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะออกมาอย่างไร ซึ่งตนคิดว่าขึ้นอยู่กับคนมากกว่า ถ้าคนไทยต้องการปฏิรูปก็สามารถเดินหน้าได้ แต่หากจะเขียนแต่รัฐธรรมนูญแต่ไม่ปฏิรูปต่างชาติก็ไม่ยอมรับ
ทุกกระทรวงต้องเร่งทำงาน ไม่เช่นนั้นวันหน้าถูกไล่ถอนหงอก ว่าได้ทำอะไรไปแล้ว ที่ผ่านมาหนึ่งปี เป็นเพียงหนังตัวอย่าง มีทั้งดาวดีและดาวร้าย แต่ดาวร้ายอาจจะเยอะ เดี๋ยววันหน้าก็ต้องเสียเวลาคัดดาวดีอีก เสียเวลาคัดดารามาอีก แต่ต่อไปใครมาจะทำหนังจริงก็ต้องแล้วแต่ท่าน เอาอะไรก็ว่ามา รัฐธรรมนูญเขียนไว้ แต่อยากบอกว่าผมไม่ได้อยากอยู่ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ อยากไป ไม่ได้ภาคภูมิใจ แต่ดีใจที่ได้ทำงานให้กับประเทศชาติ ที่เข้ามาปัญหาเยอะ คิดว่า 5 เดือนก็จบ แต่พอเข้ามาปัญหาเล็กๆ ก็แก้ได้ ปัญหากลางๆ ก็กำลังทำ ปัญหาปลายๆ ก็ยังเข้าคิวอยู่" นายกรัฐมนตรี กล่าวพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่า คสช.ได้จัดทำวีดิทัศน์การทำงานรอบ 1 ปีของ คสช.ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีความห่วงใย และต้องการให้ประชาชนเข้าใจการทำงานของ คสช.และรัฐบาลมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ พอใจการทำงานช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากทำให้สถานการณ์สงบเรียบร้อยมากขึ้น และยืนยันว่าจะพยายามทำงานให้ดียิ่งขึ้น โดยต้องอาศัยความร่วมมือกับประชาชน
พล.อ.อุดมเดช ยังระบุว่า ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป หรือ ศปป.จะเชิญกลุ่มต่างๆ ทั้งนักการเมือง และนักวิชาการร่วมเสนอแนะข้อคิดเห็นต่างๆ เป็นครั้งที่ 2 ในเดือนมิถุนายนนี้ หลังจากได้เชิญมาพูดคุยแล้วก่อนหน้านี้ โดยมีแนวคิดในการเชิญกลุ่มต่างๆ ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นลักษณะนี้ทุก 1 เดือนถึง 2 เดือน
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้รายงานถึงภาวะเศรษฐกิจทั่วไป ฐานะและนโยบายการคลังการเงินของประเทศว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2559 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราร้อยละ 3.7-4.7 ใกล้กับการขยายตัวในปี 2558 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มการปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจโลก ซึ่งคาดว่าจะทำให้การส่งออกสามารถกลับมาขยายตัวได้มากขึ้น ในขณะที่ราคาสินค้าส่งออกและราคาสินค้าเกษตรสำคัญมีแนวโน้มจะมีเสถียรภาพและเริ่มปรับเปลี่ยนสูงขึ้น รวมทั้งการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในเกณฑ์สูงต่อเนื่อง รวมทั้งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2559 ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญประกอบด้วย แนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของตลาดการเงินสหรัฐ และตลาดการเงินโลก การปรับของผู้ผลิตน้ำมันสหรัฐ และกลุ่มประเทศโอเปกที่อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเร็วกว่าการคาดการณ์ รวมทั้งการใช้นโยบายขยายปริมาณเงินในประเทศยังเป็นปัจจัยกดดันค่าเงินและเป็นข้อจำกัดต่อการขยายตัวภาคส่งออก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณประกอบด้วย 8 ยุทธศาสตร์ และรายการค่าดำเนินการภาครัฐ ดังนี้ 1.ยุทธศาสตร์เร่งรัดวางรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ จำนวน 247,342.7 ล้านบาท 2.ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งรัฐ จำนวน 240,418.3 ล้านบาท 3.ยุทธศาสตร์การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและเป็นธรรม จำนวน 222,375.9 ล้านบาท 4.ยุทธศาสตร์การศึกษา สาธารณสุข คุณธรรม จริยธรรม และคุณภาพชีวิต จำนวน 994,414.6 ล้านบาท 5.ยุทธศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 71,060.4 ล้านบาท 6.ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม จำนวน 27,335.5 ล้านบาท 7.ยุทธศาสตร์การต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ จำนวน 9,099.3 ล้านบาท 8.ยุทธศาสตร์การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี จำนวน 364,645.7 ล้านบาท และ 9.รายการค่าดำเนินการภาครัฐ จำนวน 543,307.6 ล้านบาท
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิก สนช. และหากใครมีอะไรสงสัยก็พร้อมที่จะตอบ ที่ผ่านมา 1 ปีนั้นเป็นแค่หนังตัวอย่าง เพราะเราเสียเวลากับการคัดตัวละคร ไม่ค่อยมีใครให้คัด ไม่ค่อยมีใครอยากมาเสี่ยงกับตน มีแต่มาสมัครเป็นผู้ร้ายเพราะได้ใกล้กับนางเอก ที่ตนพูดวันนี้เป็นแค่หนังตัวอย่างทั้งสิ้น ตั้งแต่งบประมาณปี 57-59 ส่วนหนังจริงนั้นจะเริ่มหลังจากนี้ และถ้าจะให้ตนมาเริ่มใหม่นั้น ก็ไม่เอาแล้ว วันนี้อย่ามาสงสารตน เพราะตนทำตัวเอง เราถูกคาดหวังมาก ครอบครัวก็กดดัน แต่ก็ทำงานเต็มที่ ขอให้เชื่อว่าไม่มีการเอื้อผลประโยชน์ให้ใคร
"มีคนมาบอกให้ใช้มาตรา 44 เรื่องปรองดองและเรื่องอื่นๆ แต่มันยังไม่เข้าขั้นตอนสักอันเลย เรื่องการโยกย้ายหมุนเวียนข้าราชการก็ทำตามปกติที่สามารถทำได้ ทหารก็ทำแบบนี้ เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่ทำกันเอง แต่ถ้าจะมาบอกว่าให้คัดคนไม่ดีออกทั้งระบบนั้น มันทำไม่ได้ ข้าราชการมี 4 แสนคน ถ้าฟังสื่อก็คงต้องปลดไปร่วม 2 แสนคน แล้วจะเอาพวกนี้ไปไว้ตรงไหน ถ้าจะปลดก็ต้องหาความผิดมาให้ได้ก่อน ส่วนทหารก็มีบ้างที่เมา ที่เกเร แต่ตบหัวไป 2-3 ทีก็รู้เรื่อง ขอให้เชื่อเถอะว่าทหารจริงใจ นายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ใช้เวลาชี้แจงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2559 เป็นเวลา 2 ชั่วโมง 15 นาที โดยตลอดการชี้แจงนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้อ่านเอกสารประกอบด้วยความรวดเร็ว ทำให้ช่วงหนึ่งของการชี้แจงนั้น มีผู้ส่งโน้ตขึ้นมาขอให้อ่านช้าๆ เพราะล่ามภาษามือแปลไม่ทัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเอกสารนั้นมีตัวเลขเป็นจำนวนมาก ประกอบกับการที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนพูดเร็ว ทำให้บางช่วง พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับแสดงอาการเหนื่อยและถอนหายใจอยู่หลายครั้ง โดย พล.อ.ประยุทธ์ยังพูดขึ้นช่วงหนึ่งในระหว่างการชี้แจงด้วยว่า "ขอพักเหนื่อยหน่อยนะ หายใจไม่ทัน "

logoline