ป.ป.ช.พิจารณา สนช.ตั้งเครือญาติ

การประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ วันนี้นัดพิจาณณากรณี คุณศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ยื่นให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบสนช.ตั้งเครือญาติดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญประจำตัวและมีเงินเดือนประจำ โดย ป.ป.ช. รับเรื่องไว้เพื่อมาพิจารณาว่าอยู่ในอำนาจหน้าที่ของป.ป.ช.หรือไม่ เนื่องจาก พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 100 ไม่ได้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับตำแหน่งที่มีการร้องมา มีเฉพาะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ คู่สมรส ผู้บริหารท้องถิ่นและรองผู้บริหารท้องถิ่น แต่ไม่มีกำหนดตำแหน่ง สนช.ไว้ จึงต้องพิจารณาก่อนว่าจะเข้าข่ายกฎหมาย ป.ป.ช.หรือไม่มีรายงานจาก ปปช.ว่า การร้องเรียนที่เกี่ยวกับจริยธรรม คงไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานของ ป.ป.ช. เพราะเรื่องจริยธรรมต้องไปร้องที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน และผู้ตรวจการก็จะพิจารณาตามมาตรา 270 และหากผู้ตรวจการสอบแล้วพบว่าผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามมาตรา 270 จึงจะส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช.ไต่สวนตามขั้นตอนต่อไป ซึ่ง มีรายงานว่า ปปช. จะไม่รับไว้พิจาณา เพราะตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 100 ไม่ได้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับตำแหน่ง สนช. ในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน
ก่อนหน้านี้ ศรีสุวรรณ ยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบประธานสนช. และ สมาชิก สนช. กว่า 50 คน เลขาธิการวุฒิสภา และ รองเลขาธิเลขาธิการวุฒิสภา จากกรณีที่แต่งตั้ง ภริยา บุตร และเครือญาติมาช่วยงานในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริต และผิดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง และเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน / หากดำเนินการไต่สวนแล้วพบว่ามีความผิดจริง ให้ดำเนินการคืนเงินประจำตำแหน่งทั้งหมดแก่แผ่นดิน และส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นอกจากนี้ขอให้สนช.ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและสรุปรายงานแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน