svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ประยุทธ์" แจงขนส่งระบบราง หวังเริ่มวิ่งปี 2561

27 กุมภาพันธ์ 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

27 ก.พ. 2558 - ประยุทธ์ แจงโครงการพัฒนาขนส่งระบบราง หวังเริ่มวิ่งปี 2561 ระบุรถไฟความเร็วสูงชัดเจนปีนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติถึงเรื่อง เรื่องการพัฒนาระบบรางว่ามีความก้าวหน้า โดยระบบรางในส่วนของ ทางคู่ 1 เมตร นั้น ส่วนแรกจะเป็นโครงการเร่งด่วน 6 เส้นทาง ระยะทางรวม 903 กิโลเมตร ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปีนี้


ได้แก่ เส้นทางที่มีการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้วนะครับ มีการอนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาเพื่อเวนคืนที่ดินแล้ว 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางช่วงฉะเชิงเทรา คลอง19 แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร, เส้นทางช่วงชุมทางถนนจิระ ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร, เส้นทางช่วงประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร เส้นทางที่อยู่ระหว่างการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) มีอีก 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 48 กิโลเมตร, เส้นทางช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร, เส้นทางช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตรก็ขอความร่วมมือจากประชาชนที่อยู่ในเส้นทางดังกล่าวด้วย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่าในส่วนที่ 2 จะเป็นโครงการระยะต่อไป ซึ่งจะดำเนินการศึกษาและออกแบบรายละเอียดในปีนี้ จำนวน 8 เส้นทาง ได้แก่ หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์, ปากน้ำโพ-เด่นชัย,ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี, ขอนแก่น-หนองคาย, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-สงขลา, หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ และ เด่นชัย-เชียงใหม่

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับทางขนาด 1.435 เมตร นั้น ก็จะเป็นการพัฒนาโครงข่ายรถไฟที่เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐต่อรัฐ โดยรัฐบาลไทยจะร่วมมือกับรัฐบาลประเทศต่างๆ ที่สนใจ อันได้แก่ เช่น จีน ญี่ปุ่น หรืออื่นๆ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจารายละเอียดในเรื่องของรูปแบบการลงทุน และการจัดหาแหล่งเงินทุนของแต่ละโครงการ รวมความไปถึงเรื่องการบริหารด้วย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในส่วนของเส้นทางรถไฟที่จะร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนนั้น ขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้มีการหารือคณะทำงานร่วมไทย-จีนไปแล้ว เพื่อเตรียมการออกแบบ เวนคืนที่ดิน เตรียมความพร้อมบุคลากร เทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งจะต้องมีการถ่ายทอดกันต่อไปนะครับ โดยจะมีการแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 4 ช่วงด้วยกัน ได้แก่ กรุงเทพฯ-แก่งคอย 133 กม. แก่งคอย-มาบตาพุด 246.5 กม. แก่งคอย-นครราชสีมา 138.5 กม. และนครราชสีมา-หนองคาย 355 กม. ทั้งนี้ จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในช่วงที่ 1 และ 2 ภายในเดือนตุลาคม 2558 และก่อสร้างช่วงที่ 3 และ 4 ภายในเดือนธันวาคม 2558 โดยมีแผนจะให้แล้วเสร็จและเริ่มเดินรถได้ภายในปี 2561

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อ่า สำหรับเส้นทางร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นนั้น ก็กำลังอยู่ระหว่างร่วมกันทำการศึกษาในข้อตกลงใน 3 เส้นทางด้วยกัน โดย 2 เส้นทางแรก จะเป็นเส้นทางแนวระเบียงเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงฝั่งตะวันออกและตะวันตกของไทย หรือ East-West Corridor ได้แก่ เส้นทางจาก กาญจนบุรี-กรุงเทพฯ กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-อรัญประเทศ กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง แล้วก็อันที่ 2 คือ เส้นทาง จากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มุกดาหาร และ อีกหนึ่งเส้นทาง จะเชื่อมไปยังภาคเหนือ คือเส้นทาง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขณะนี้ กระทรวงคมนาคมดำเนินการตั้งคณะทำงานเจรจาประสานงานร่วมกันกับญี่ปุ่นในการศึกษาแนวทาง ความเหมาะสมทางภูมิศาสตร์และแนวทางการลงทุนร่วมกัน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า 12สำหรับ แนวคิดเส้นทางความเร็วสูงนั้น ก็มีข้อเสนอของเอกชนไทย ที่อยากจะให้ประเทศมีความทันสมัย และเพื่อให้เกิดการพัฒนาชุมชนเมือง การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่เป็นธรรม ตลอดเส้นทางการเดินรถ ตนก็ได้ให้พิจารณาหาข้อมูล หาข้อสรุปให้ได้ว่าจะดำเนินการกันได้อย่างไร ทั้งเส้นทางระยะสั้น และ เส้นทางที่มีประชาชนเดินทางคมนาคมจำนวนมาก เช่น กรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง-อู่ตะเภา หรือ กรุงเทพฯ-หัวหิน ซึ่งก็อาจจะต้องพิจารณาความคุ้มค่าในการดำเนินการ โดยแนวทางนั้นอาจเป็นในรูปแบบให้เอกชนร่วมลงทุน ที่เรียกว่า PPP หรือการลงทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infra-Fund) โดยรัฐจะเร่งพิจารณาให้เห็นผลชัดเจนในปีนี้นะครับ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับทางรถไฟความเร็วสูงนั้นหลายคนก็มีความกังวลว่าราคามันแพงเกินไปไหม ตนดูตัวอย่างจากประเทศญี่ปุ่นนะครับ ในช่วงแรกอาจจะราคาสูง คนยังใช้บริการไม่เต็มที่ เขาใช้รายได้ที่ได้มาจากการค้าขายหรือสัมปทานในตลอด 2 เส้นทางนะครับ ในการที่จะจัดทำศูนย์การค้า ทำอะไรล่ะ ทำตลาดนะครับ ที่ตนมองเห็นนะครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นการลงทุนร่วมกันระหว่างรัฐกับเอกชน คงไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งรับไป เพราะว่าอาจจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อชาติไม่เท่าที่ควร แล้วก็อาจจะสร้างความไม่ไว้วางใจกับสังคม กับประชาชนโดยรวมด้วย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนให้พิจารณานอกจากศูนย์การค้าอะไรแล้วนี่ ถ้าคิดจะทำร่วมกัน ก็อาจจะให้ลงทุนในเรื่องของการจัดตั้งอาคารที่อยู่อาศัยให้กับคนที่มีรายได้น้อย สร้างตลาด สร้างอะไรต่างๆ ให้เขามีรายได้ เราจะได้ขยับขยายชุมชนเมืองที่แออัดอยู่ในขณะนี้ แล้วก็มีพื้นที่สำหรับการค้าขายให้กับประชาชนที่เราจำเป็นต้องจัดระเบียบในขณะนี้ด้วยนะครับ อันนี้มันจำเป็น นี่คือเหตุผลหลักของผม ในเรื่องของรถไฟความเร็วสูงนั้น แน่นอน การลงทุนก็ต้องสูงตามไปด้วย แต่ถ้าเรามีภาคเอกชนมาร่วมด้วยนี่ผมคิดว่าขณะนี้ก็หลายบริษัท หรือหลายกลุ่ม นักธุรกิจขนาดใหญ่ก็ให้ความสนใจนะครับ แล้วก็พร้อมจะร่วมมือกับรัฐบาล ก็ต้องดูข้อตกลงกันให้ชัดเจนขึ้นนะครับ อย่ากังวลในเรื่องนั้น

logoline