"เพื่อไทย"หนุนนิรโทษ คู่ขัดแย้งทางการเมือง

นายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีตส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานอนุกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ พิจารณากรอบการจัดทำรัฐธรรมนูญ คณะที่ 10 เสนอต่อกรรมาธิการฯ ให้นิรโทษกรรมคู่ขัดแย้งทางการเมืองทั้ง 2 ฝ่ายตั้งแต่ปี 48-57 ว่า ตนเห็นด้วยที่จะนิรโทษกรรมให้กับผู้ร่วมชุมนุมที่มาด้วยความบริสุทธิ์ใจและไม่เกี่ยวข้องกับคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ผู้ที่มีคดีพยายามฆ่าหรือทำให้ผู้อื่นเสียหายนั้นต้องชดใช้ เชื่อว่าหากทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับจะทำให้เกิดความปรองดองขึ้นได้ในระดับหนึ่ง เพราะจะช่วยลดความตึงเครียดและความเคียดแค้นของคนที่เป็นผู้ต้องหาโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ละเมิดสิทธิของคนอื่นนั้นเรายอมไม่ได้ กฎหมายต้องเดินไป คนที่ตั้งใจที่จะสร้างความวุ่นวายโดยอาศัยมวลชนนั้นเรารับไม่ได้ และหากออกกฎหมายนิรโทษกรรมจริงคงจะไม่กระทบกับกลุ่มนปช. เพราะแกนนำนปช.เคยเสนอแล้วว่าให้นิรโทษกรรมให้เฉพาะผู้ที่มาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ส่วนแกนนำนปช.นั้นไม่ต้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นเหมือนในสมัยที่พรรคเพื่อไทยเคยดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมหรือไม่ นายอุดมเดชกล่าวว่า คงไม่เกิดปัญหา เพราะเป็นการออกกฎหมายโดยคนกลาง ส่วนคนที่เป็นแกนนำนั้นต้องรู้จักสำนึกที่ต้องดูแลคนที่มาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทั้งนี้ส่วนตัวไม่รู้สึกเสียใจกับการดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ผ่านมา เพราะคิดว่าได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่ายแล้ว 
นายอุดมเดช ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะเสนอต่อกรรมาธิการฯ โดยขอให้คงอำนาจหน้าที่ของกกต.ในการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง การให้ใบเหลือง ใบแดง และการขยายระยะเวลาการให้ใบเหลือง ใบแดงออกไป 60 วันด้วยว่า คนในองค์กรอิสระมักมองภาพการทำงานของตัวเองเท่านั้น ไม่ได้คิดถึงคนภายนอกที่มองเห็นการทำงาน นอกจากนี้ยังพยายามคงอำนาจของตัวเองไว้ ถ้าเพิ่มอำนาจตัวเองได้ก็จะเพิ่ม เช่น กรณีที่ป.ป.ช.พยายามเสนอกฎหมายเพิ่มอำนาจให้ตัวเองมากขึ้น ซึ่งวันนี้การบังคับใช้กฎหมายขององค์กรอิสระโดยเฉพาะตัวบุคลากรนั้นยังมีข้อกังขาอยู่ ซึ่งตนมองว่าพื้นฐานอยู่ที่ตัวบุคลากรเป็นหลัก บุคลากรต้องเป็นที่ยอมรับ มีใจเป็นธรรม มีสามัญสำนึกเป็นกลาง ไม่เอนเอียงไปทางฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ดังนั้นสิ่งที่กกต.เสนอนั้นจะต้องคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนด้วย