นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา บอกว่า จะเดินทางมาชี้แจงต่อที่ประชุมสนช. ด้วยตัวเองวันนี้ พร้อมเอกสารเพิ่มเติมคือบันทึกการประชุม เทปบันทึกการประชุมความยาว 120 ชั่วโมง และเทปบันทึกการประชุมฉบับย่อ 4 ชั่วโมง มาชี้แจงด้วย รวมทั้งได้ทำหนังสือคัดค้านการพิจารณาสำนวนของสนช. 16 คนที่เป็นอดีตส.ว.ที่ยื่นคำร้องถอดถอนตน เพราะถือเป็นคู่ขัดแย้ง และมีส่วนได้เสีย เพื่อให้การพิจารณาเป็นไปอย่างเที่ยงธรรม ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีความกังวลและมีความพร้อมที่จะชี้แจง เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง
น.พ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสนช.ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสนช.(วิป สนช.) กล่าวว่าขณะนี้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา ได้ยื่นพยานเอกสารมายังสนช.แล้ว ส่วนใหญ่เป็นบันทึกการประชุมระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุมและต่อสู้ในประเด็นที่ว่ารัฐธรรมนูญ ปี 2550 ถูกยกเลิกไปแล้ว ซึ่งนายสมศักดิ์จะเดินทางเข้าชี้แจงต่อประชุม สนช. ด้วยตัวเอง
พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สนช บอกว่า เป็นสิทธิของนายนิคมที่จะคัดค้าน ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2550 เปิดโอกาสให้ ส.ว.สามารถเข้าชื่อเสนอถอดถอนได้ แต่ตนก็มีสิทธิ์ที่จะคัดค้านโดยจะอภิปรายในที่ประชุมด้วยเหตุและผล และจะสอบถามว่า ทำไมคัดค้านเฉพาะ 16 สนช.ทำไมไม่คัดค้านพล.ต.กลชัย สุวรรณบูรณ์ สนช.และอดีตส.ว.ด้วย ที่ถูกป.ป.ช.ยื่นถอดถอน เป็นเพราะตัวเองได้ประโยชน์ใช่หรือไม่ จึงอยากให้นายนิคมย้อนไปดูการกระทำของตัวเองว่าทำอะไรลงไป ไม่ว่าจะเป็นการลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 มาตรา 237 และแก้ไขที่มาของส.ว. ในฐานะที่เป็นประธานวุฒิถือว่าไม่มีความชอบธรรม แต่ก็ยังยืนยันที่จะทำหน้าที่ต่อไปจนทำให้เกิดวิกฤตทางการเมืองขึ้น ซึ่งการมายื่นคัดค้านนั้นสมควรหรือไม่ หากไม่ทำผิดก็ไม่ต้องกลัวอะไร
พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ สนช. 1 ใน 16 อดีต ส.ว.ที่ถูกร้องคัดค้านไม่ให้ร่วมพิจารณากระบวนการถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ กล่าวว่า ได้ทำหนังสือขอแจ้งต่อประธานสนช.ว่าไม่ประสงค์ร่วมพิจารณาการถอดถอนกรณีดังกล่าว เนื่องจากเป็นผู้มีส่วนได้เสีย เพราะเป็นผู้เข้าชื่อร้องถอดถอนนายนิคมและนายสมศักดิ์ในสมัยที่เป็นส.ว. อีกทั้งตนเคยเป็นกรรมาธิการด้านจริยธรรมของส.ว.ที่มีมติชี้มูลว่า นายนิคมผิดจริยธรรม ซึ่งเป็นเหตุผลไม่เข้าร่วมการพิจารณา
นายธานี อ่อนละเอียด สนช. 1 ใน 16 อดีต ส.ว.ที่เข้าชื่อร้องถอดถอนนายนิคม กล่าวว่า การยื่นคัดค้านมีลักษณะเหมือนการคัดค้านผู้พิพากษาในศาล แต่กรณีของศาลมีบทบัญญัติชัดเจน ขณะที่ข้อบังคับการประชุมสนช.ไม่มีได้มีบทบัญญัติเรื่องนี้ และในอดีตก็ไม่มีใครคัดค้านในลักษณะนี้ ตนจึงคิดว่าเป็นประเด็นที่ต้องให้ที่ประชุมสนช.วินิจฉัยซึ่งการคัดค้านแบบนี้จะส่งผลกระทบต่อองค์ประกอบของสนช.ที่จะพิจารณา ถอดถอนโดยใช้เสียง 3 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนสนช.กลุ่มอดีต 40 ส.ว.อาทิ น.พ.เจตน์ ศิรธรานนท์ นายตวง อันทะไชย นายสมชาย แสวงการ มีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมพิจารณาในกระบวนการถอดถอน โดยจะมีการอภิปรายในที่ประชุมสนช.คัดค้านการยื่นหนังสือของนายนิคม เนื่องจากเห็นว่า ตนเองมีสิทธิ์ในฐานะสนช.