นายกฯเดินทางกลับ จากเยือนกัมพูชา

เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ท่าอากาศยาน ทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เดินทางกลับจากเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ โดยพล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งที่หารือกันคือไทย-กัมพูชาเราจะมีอนาคตร่วมกันผลประโยชน์ร่วมกัน สร้างความเข้มแข็งทุกด้านให้แก่สองประเทศ ตนประทับใจในการต้อนรับให้เกียรติจากฝ่ายกัมพูชาอย่างดียิ่ง ซึ่งตนมีความสัมพันธ์กับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ตั้งแต่เป็นผบ.ทบ.และระหว่างที่เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โดยตนได้กล่าวถวายถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระราชอภัยโทษแก่คนไทย ในส่วนความร่วมมือเรื่องชายแดนเราเห็นพ้องในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เราเป็นฝ่ายนำร่องก่อน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ไทย-กัมพูชาได้มีการตั้งคณะกรรมการพูดกันหลายเรื่อง ทั้งการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ การพัฒนาส่งเสริมการลงทุน ที่เห็นพ้องกันว่าต้องมีอุตสหกรรมตามแนวชายแดนเพื่อสร้างงานให้แก่แรงงานตามพื้นที่แนวชายแดนและชนบท นอกจากนี้กัมพูชาฝากให้เราดูแลแรงงานประมงชาวกัมพูชา ซึ่งตนมีความเป็นห่วง โดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้รับผิดชอบ เราจะต้องแก้ไขโดยเร็ว และคสช.จะเข้าไปร่วมดำเนินการเพื่อป้องกันการถูกจำกัดสิทธิทางการค้า เช่น การขนส่งสินค้าไปต่างประเทศ และต้องทำความเข้าใจว่าที่ดำเนินการเรื่องนี้เราไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบการ เราทำเพื่อให้เกิดความถูกต้อง เพราะปัญหานี้เกี่ยวข้องกับเรื่องการค้ามนุษย์และสิทธิมนุษยชน ส่วนปัญหาที่มีความขัดแย้งระหว่างกันเราไม่ได้มีการพูดถึง อย่างเรื่องเขาพระวิหารได้คุยว่าอะไรที่เป็นปัญหาขัดแย้งยังไม่ต้องคุย ถ้าจะไปเที่ยวเขาพระวิหารตอนนี้ต้องไปขึ้นฝั่งกัมพูชา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การพูดคุยทั้งหมดเป็นการเปิดหัวข้อที่จะร่วมมือกันระหว่างไทย-กัมพูชา เรามีคณะทำงานหลายคณะทั้งเขตแดนความมั่นคง และการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีทุกคนจะเข้าไปรับผิดชอบ ส่วนเรื่องโครงสร้างพื้นฐานจะมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล การค้าเป็นหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ ทั้งหมดต้องบูรณาการกัน เราต้องมีความเอื้อเฟื้อไม่หวังกำไรจนเกินเหตุเพราะจะทำให้ยากต่อการคบค้า คนไทยค้าขายเก่งแต่ต้องแบ่งปันเพื่อให้ผลประโยชน์เท่าเทียมให้เกิดความสมดุลอย่าเอาตัวเลขเป็นตัววัด เพราะเราจะเข้มแข็งคนเดียวไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตนได้ย้ำให้สถานทูตไทยไม่ใช่เฉพาะที่กัมพูชาให้ทำงานในลักษณะศูนย์ดำรงธรรมในเรื่องการให้ข้อมูลทางธุรกิจและติดต่อราชการให้แก่ภาคเอกชน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้แสดงความมั่นใจต่อเสถียรภาพของรัฐบาลไทยในความปลอดภัย และยินดีให้ความร่วมมือทุกเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน ส่วนเรื่องพลังงานเราได้พูดกันว่าจะดูแลอย่างไร ซึ่งสองประเทศไทยได้ตั้งคณะทำงานมาพูดคุยกัน ไม่มีการคุยส่วนตัว อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถตกลงกันได้หรือไม่ โดยสิ่งที่เป็นประเด็นคือเราเป็นห่วงในเรื่องของความมั่นคงด้านพลังงานของทั้งสองประเทศ