svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"หม่อมอุ๋ย"เตือนประชานิยมเป็นจุดจบประชาธิปไตย

ฝาก สปช.ออกแบบระบบดึงคนไม่ดีออกจากการเมือง

ที่โรงแรมรามาการ์เด้นท์ - 16 ต.ค. 57 - "หม่อมอุ๋ย"เตือนประชานิยมเป็นจุดจบประชาธิปไตย ฝากสปช.ออกแบบระบบดึงคนไม่ดีออกจากการเมือง ศาลรับฟ้องคดีต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทั้งครอบครัว ส่วนประเด็นเศรษฐกิจมั่นใจไทยยังรุ่ง ปีหน้าโตเกิน 4%แน่นอน
มรว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ"เศรษฐกิจไทยจะไปรุ่งหรือไปยุ่ง" ในงานปาฐกถาพิเศษ"ทิศทางประเทศไทย"เพื่อระดมทุนของมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม เพื่อระดมทุนสร้างอนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 2535 และสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม ว่า จุดจบของประชาธิปไตยของหลายประเทศ คือประชานิยม โดยเฉพาะประเทศในยุโรปซึ่งมีสวัสดิการที่มากไปจนไม่มีประสิทธิภาพในทางเศรษฐกิจ หนี้สาธารณะพุ่งกว่า 100-150% ของจีดีพี ถ้ารัฐจะกู้หนี้ต้องนำมาลงทุนเท่านั้นไม่ใช่นำเงินไปปู้ยี้ปู้ยำในประชานิยมจนเอาไม่อยู่ หากสปช.จะวางแนวทางปฏิรูปเพื่อกันคนไม่ดีเข้ามาในระบบ แต่ไม่มีระบบใดกันอยู่ ต้องขึ้นอยู่กับการสั่งสอนของบิดามารดา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีกฎเกณฑ์ให้คนไม่ดีออกไปเร็วขึ้น เพื่อให้จำนวนของคนไม่ดีเหลือน้อยจนไม่สามารถทำลายการเมืองลงได้ ถ้านักการเมืองถูกฟ้องและศาลรับฟ้องคดีอย่างมีเหตุมีผล ต้องพ้นจากการเมืองหยุดปฏิบัติหน้าที่รวมถึงครอบครัวลูกเมีย ไม่ต้องรอให้ต่อสู้คดีจนครบ 3  ศาลรูปแบบนี้จะทำให้คนไม่ดีลดไปกว่าครึ่ง ยกตัวอย่างประเทศสิงคโปร์ดีได้เพราะการเมืองตั้งอยู่บนรากฐานคุณธรรม ระบอบที่ดีที่สุดคือธรรมาธิปไตยจะเป็นแบบไหนก็ตามถ้าอยู่บนรากฐานของคุณธรรมประเทศจะเจริญก้าวหน้า และมีเสถียรภาพ
มรว.ปรีดิยาธร กล่าวอีกว่า สำหรับเศรษฐกิจไทยปีนี้มีการประท้วงต่อเนื่องหยุดทำงานมาตลอด 7 เดือน ผนวกกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ปีนี้การเติบโตจึงไม่เกิน 2 % แต่ปีหน้าอัตราการเติบโตจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 4% แน่นอน เพราะสถานการณ์อั้นมานาน ในช่วงนี้จึงกระตุ้นเร่งเครื่องให้ใช้จ่ายงบประมาณ หากมีการอนุมัติโครงการลงทุนทั่วประเทศจะมีการขยับตัวสูง รัฐบาลนี้เข้ามาเพื่อวางทิศทางผลักดันให้ประเทศเดินต่อไปอย่างถูกต้อง คือ สิ่งที่ทำมาแล้วดีควรผลักดันต่อ เช่น เรื่องเกษตรข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง หลังยกเลิกโครงการจำนำข้าว ข้าวขายได้ 8 ล้านตัน และจะครบ 10 ล้านตันภายในสิ้นปีนี้. เราจะขึ้นเป็นที่1ของโลกภายในปีเดียว ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมไทยก็เป็นที่ 1 ของอาเซียน และจะก้าวไปสู้อันดับนำของโลก นอกจากนี้ภาคอุตสาหกรรมต้องขยายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นๆ เพื่อชิงสัดส่วนในตลาดการค้า เร็วๆ นี้จะแก้ไขกฎหมายและกฎเกณฑ์เพื่อปลดล็อคให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนมากขึ้น โดยมีเป้าหมายให้ไทยเป็นที่ 1 ในภูมิภาค
"ประเด็นที่เป็นจุดอ่อนของไทย คือ เชื้อเพลิงใช้มากถึง 19 % ของจีดีพี ขณะที่ประเทศอื่นใช้เพียง 9 % ของจีดีพี สาเหตุเพราะโครงสร้างราคาผิดสมดุล มาตรการประหยัดไฟฟ้าทำได้ไม่ดี เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ของไทยไม่ได้ประหยัดจริง นอกจากนี้เรายังแพ้ประเทศอื่น คือ ดิจิตอล ซึ่งยังจำกัดการใช้อยู่กับคนบางกลุ่มไม่ครอบคลุมคนทั่วประเทศ ถ้าเรายังล้าหลัง ไม่พัฒนาจะไม่ทันประเทศอื่น แม้จะทำไม่เสร็จภายใน 1 ปี แต่จะเป็น 1 ปีของการวางรากฐานให้รัฐบาลชุดต่อไปต้องเดินตาม"มรว.ปรีดิยาธร กล่าว