svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"นายกฯ"มั่นใจคุมทุจริตได้ ลั่นไม่ซ้ำรอยรัฐบาลชุดที่แล้ว

24 กันยายน 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศูนย์การทหารราบ - 24 ก.ย. 2557 - "นายกฯ" มั่นใจคุมทุจริตได้ ลั่นไม่ซ้ำรอยรัฐบาลชุดที่แล้ว ขอร้องนักวิชาการอย่าเพิ่งเรียกร้องอะไร ยัน สปช. ไม่มีล็อคสเป็ค

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลไม่ให้รัฐบาลมีการทุจริตว่า ตนคุมรัฐบาลและคุมรัฐมนตรีได้ เพราะเป็นหน้าที่ของตน ที่จะต้องบังคับบัญชา ซึ่งการทำงานก็เหมือนกับทหาร ซึ่งผู้บัญชาการทหารบก ก็บังคับบัญชาแม่ทัพ และแม่ทัพก็ไปบังคับบัญชาระดับกองพลและระดับล่าง ซึ่งตนเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องคุมรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และคณะทำงานที่เป็นฝ่ายการเมืองให้ได้ ส่วนระดับราชการก็ต้องไปควบคุมตามลำดับ ซึ่งทุกอย่างมีความรับผิดชอบตามกฎหมายอยู่แล้ว ในเมื่อผมมีนโยบายชัดเจนอยู่แล้ว ก็จะต้องปฏิบัติ ถ้าไปทำทุจริตและผิดกฎหมาย ถือว่าผิดนโยบาย ซึ่งทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะนี่คือระเบียบราชการบริหารแผ่นดิน แต่ต้องไปดูและให้ความเป็นธรรม เรื่องใดก็ตามที่ดูแล้วไม่ถูกต้องก็ต้องไปร้องเรียนหรือฟ้องร้อง เพื่อที่จะให้โอกาสในการดำเนินการสืบสวนสอบสวน โดยเฉพาะการตั้งคณะกรรมการ ไม่ใช่สอบสวนกันแค่ 2-3 วันแล้วจบ เป็นไปไม่ได้ ต้องใช้ระยะเวลา โทษทัณฑ์ที่ว่าจะมีเบาไปหาหนัก ทหารก็มีภาคทัณฑ์ กักขัง จำขัง ซึ่งข้าราชการก็คงจะเหมือนกัน แต่จะให้ขังเเบบทหารคงไม่มี แต่จะถูกดำเนินคดีอาญาและแพ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรี มั่นใจว่าจะไม่ให้เหตุการณ์ซ้ำรอยรัฐบาลชุดที่เเล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะซ้ำได้อย่างไร ในเมื่อเจตนาตนไม่ทำ เจตนาของรัฐบาลคือไม่ต้องการผลประโยชน์แม้แต่นิดเดียว เท่าไรก็ไม่ต้องการ และรัฐมนตรีทุกคนก็ไม่ต้องการ วันนี้ทำทุกอย่างมาตั้งแต่การจัดทำนโยบาย จัดทำงบประมาณ รวมถึงการบริหารจัดการต่างๆ ซึ่งตนได้สั่งอย่างละเอียดและการประชุม ครม. ก็ได้สั่งการ 20-30 เรื่อง ไม่ได้เป็นการประชุมเเค่นำเรื่องเข้ามาแล้วอนุมัติ มันไม่ใช่ ตนได้สั่งการว่าจะทำงานอย่างไรด้วย ซึ่งทุกครั้งที่มีการประชุม ครม. จะใช้เวลามากพอสมควร ซึ่งเราป้องกันในการใช้จ่ายงบประมาณอย่างถูกต้อง ไม่มีการทุจริตและให้เกิดผลประโยชน์โดยตรงกับประเทศชาติ ไม่อย่างนั้นงบประมาณจะสูญเปล่าและเสียไปเรื่อยๆ ถ้าสื่อหรือใครได้ข่าวการทุจริต ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และประชาชนต้องช่วยกันฝ้าระวังเพื่อแจ้งขึ้นมา หลังจากนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนหรือจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเป้นตามขั้นตอนทุกอย่าง ถ้าผู้บริหารไม่ต้องการผลประโยชน์ มันจบแล้ว แต่อย่างอื่นก็ต้องวว่าไปตามระบบ เนื่องจากมีกฎกติกาอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกกดดันหรือไม่กับการถูกจับตามองจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะเรื่องการทุจริต พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กดดันเรื่องอะไร ไม่เคยกดดัน ใครจะจับตามองก็จับตามมองมา จะมากดดันตนด้วยเรื่องอะไร ในเมื่อตนทำในสิ่งที่บริสุทธิ์ใจและจริงใจกับประเทศชาติ จะกดดันไปทำไม ถ้าตนกดดันก็ทำงานลำบาก ซึ่งตนฟังความคิดเห็นของทุกคนเพื่อนำมาวิเคราะห์มาตักสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป  แแม้กระทั่งกลุ่มต่อต้านก็ฟัง อยากเรียกร้องขอให้เขาดูสถานการณ์ของประเทศไปก่อนขณะนี้ได้ไหม ให้ประเทศชาติผ่านวันเวลาที่ยากลำบากตอนนี้ไปก่อนได้ไหม เราต้องการแก้ไขปัญหาที่จะต้องไม่เกิดขึ้นในอนาคต ฉะนั้นไม่มีอะไรร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าร้อยเปอร์เซ็นต์ตนก็ไม่ต้องมาเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องมีการควบคุมอำนาจ และท่านคิดว่าสิ่งเหล่านี้มันดีหรือไม่ หรือจะเกิดต่อไป ไปถึงไหนก็ไม่รู้ ถ้ามีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นจะทำอย่างไร 
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า บางคนบอกว่ารัฐบาลชุดนี้เข้ามาก็ไม่เห็นมีอะไร ก็เพราะว่ามาถึงไม่มีอะไร ท่านรู้ได้อย่างไรว่าไม่มีอะไร ที่ผ่านมามีเหตุการร์มาโดยตลอด การดำเนินคดี การบังคับใช้กฎหมายก็ไม่เต็มที่ แต่ตอนนี้เราใช้เต็มที่ อาจจะดูว่ารุนแรงไปหน่อย แต่ตนอยากถามว่าที่ผ่านมามันแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง ถ้าเราไม่ใช้กฎหมายที่เหมาะสม เป็นธรรม มันก็จะเกิดคดีความอย่างนั้นไปเรื่อยๆ บุกรุกป่า ปัญหายาเสพติดที่มีมากมาย หรืออาชญากรรมต่างๆ และอาวุธสงคราม อยากถามว่าจะทำอย่างไร  วันนี้จะทำยังไงให้ดีขึ้น ซึ่งวันนี้ดีขึ้นส่วนน้อย ส่วนที่ไม่ดียังเยอะอยู่ ดังนั้นขอให้ช่วยกันหน่อย ทั้งนักวิชาการหรือใครก็แล้วแต่ช่วยกันเถอะ ให้ลดระดับไปก่อนได้ไหม อย่างเพิ่งมาเรียกร้องอะไรกันมากมาย เพราะเรียกมาก็ตีกันอีก มันก็จะเกิดความวุ่นวาย ผมไม่ใช่คนไม่รักประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยมันต้องพร้อมก่อน ต้องแก้ไขประชาธิปไตยของเราให้ได้ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไปนั่งทำงานที่ทำที่ทำเนียบรัฐบาลชินหรือไม่ยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะชินได้อย่างไร เป็นทหารมาทั้งชีวิต อย่าใช้คำว่าชินดีกว่า แต่ให้ใช้คำว่าตนชินกับปัญหาที่มีมายาวนานแล้ว เมื่อเรามีโอกาสเข้ามาทำงาน เราต้องแก้ไขปัญหาเหล่านั้นให้ได้ มันอาจจะมากบ้างหรือน้อยบ้าง ก็จะต้องเร่งดำเนินการ ส่วนการทำงานปฏิรูป 1 ปีตามที่วางไว้เป็นเรื่องของสภาปฏิรูปที่จะต้องดำเนินการ ตนได้ให้แนวทางตามโรดแมปไว้  ดังนั้นขึ้นอยู่กับพวกเราที่ให้เวลาการทำงานรัฐบาลแค่ไหน ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศเจตนารมณ์แล้วว่าจะทำงานให้ดีและเร็วที่สุด 
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า อย่ากังวลในเรื่องของการปฏิรูป ไม่มีการล็อคเสปค เพราะตนไม่ได้ไปล็อคกับใคร และเขาจะมาช่วยอะไรตนได้ เพราะหน้าที่ของตนคือการดูแลประเทศชาติ จะต้องมีการระดมสติปัญญามาอยู่ในคณะทำงานของแต่ละกลุ่ม เมื่อคัดเลือกมาแล้ว 250 คน ก็จะคัดเลือกให้เหลือ 173 คน บวก 77 คน ก็จะต้องมาจัดกันใหม่ ว่าใครจะอยู่กลุ่มไหนใน 11 กลุ่ม ไม่ใช่ว่ามัครกลุ่มไหนแล้วได้กลุ่มนั้น หลังจากนั้นจะมีการเลือกประธานสปช. ก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งการดำเนินการจะคล้ายกับสนช. ยืนยันว่าตนไม่ได้มีแนวทางให้กับสปช. ให้เขาไปคิดกันเอาเอง ปัญหาเขารู้อยู่แล้ว เพราะเราทำปฏิรูปครั้งที่  1  ไปแล้ว โดยให้มีคณะไปศึกษามาแล้ว ทั้งนายประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส รวมทั้งนายคณิต ณ นคร ถ้าจะทำให้เร็วก็เอาคนพวกนี้มาดู หากมีความเห็นต่าก็เสนอเข้ามา ก่อนที่จะนำเข้าไปสู่คณะกรรมธิการร่างรัฐธรรมนูญ อีกส่วนหนึ่งจะเข้าไปที่สนช. เพื่อให้ออกมาเป็นกฏหมาย เพื่อปฏิบัติ ซึ่งตนสั่งเขาไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของสปช. ที่จะต้องโหวตยกมือกันว่าเห็นด้วยหรือไม่ 
ผมจะไปล็อคสเปคเขามาทำไม ถ้าล็อคสเปคมาทั้งหมดมันก็ได้คนไม่มีความรู้หลากหลาย ที่จะลงมาทำงานทั้ง 11 กลุ่ม ซึ่งมันทำไม่ได้ แต่ปัญหาขณะนี้บางกลุ่มมีเยอะ โดยเฉพาะการศึกษาที่มีประมาณ 700-800 คน ขณะที่ด้านสื่อมวลชนมีเพียง 100 กว่าคน ถือว่าน้อยมาก"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า รัฐบาลก็มีพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ จะเดินทางเยือนยูเอ็น เพื่อชี้แจงรายละเอียดในการดำเนินการ ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่หลังวันที่ 22 พฤษภาคม แล้วทั้งช่องทางผู้ช่วยทูตทหาร และเอกอัครราชทูต ซึ่งหลายประเทศมีความเป็นห่วงเป็นใย ซึ่งเราเป็นประเทศไทย เราต้องทำอะไรเพื่อคนไทยก่อน ส่วนต่างชาติก็ต้องใช้ระยะเวลา เราไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ส่วนตนจะเดินทางไปประเทศไหนเป็นประเทศแรก ตนยังไม่บอก

logoline