svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

แกนนำ นปช.พบ"สมยศ" ร้องทำคดีชายชุดดำให้เป็นธรรม

18 กันยายน 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) -- เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 กันยายน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมด้วย นางธิดา ถาวรเศรษฐ และนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการตามหลักนิติรัฐ นิติธรรมอย่างเคร่งครัดเกี่ยวกับคดีการจับกุมชายชุดดำ โดยใช้เวลาในการพูดคุยประมาณ 30 นาที

นายจตุพร กล่าวว่า ทางกลุ่ม นปช.ยังติดใจสงสัยต่อการแถลงข่าวกลุ่มชายชุดดำเนื่องจากเห็นว่าทางตำรวจพยายามทำให้สังคมเข้าใจว่ากลุ่มชายชุดดำเป็นผู้ก่อเหตุทำให้พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม เสียชีวิตระหว่างชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 2553 และการแถลงข่าวจงใจเจตนาที่จะแสดงให้เห็นความเชื่อมโยงการชุมนุมเมื่อปี 2553 ถึง ปี 2557 โดยมุ่งหวังให้สังคมเข้าใจว่าเป็นการก่อความรุนแรงตั้งแต่ปี 2553 ต่อเนื่องถึงปี 2557 ทางกลุ่มนปช.จึงเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาตินำคดีผู้เสียชีวิตในปี 2553 ทั้งทหารและประชาชน เข้าสู่กระบวนการสอบสวนโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่ปล่อยให้คนผิดลอยนวล ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน คุกคามผู้ถูกกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหารับสารภาพโดยวิธีการละเมิดทางร่างกาย จิตใจ พวกเขาต้องได้รับสิทธิในการช่วยเหลือจากทนายความ ญาติ ตามหลักสิทธิมนุษยชน การแถลงข่าวผลการจับกุม การทำแผน ต้องกระทำโดยมีหลักฐานข้อมูลที่ชัดเจนและแถลงอย่างเที่ยงตรง ไม่ใช้เป็นกลไกเพื่อเป้าหมายและผลประโยชน์ทางการเมืองของบุคคลใดและคณะใด ซึ่งหมายถึงการทำลายความตุติธรรมของสังคมไทยและทำลายความชอบธรรมของคดีความคู่ขัดแย้งนายจตุพร กล่าวอีกว่า กลุ่ม นปช.ยินดีให้ความร่วมมือในการสืบสวนคดีทางการเมืองให้เป็นไปตามหลักฐานและกฎหมาย ไม่ได้ขัดขวาง ขอให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมาตามความเป็นจริง โดยย้ำว่าการเคลื่อนไหวของนปช.เป็นไปอย่างสันติ สงบ ปราศจากอาวุธ ทั้งนี้ เราได้ถือประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 63 เรื่องการสร้างความยุติธรรมของหน่วยงานที่มีหน้าที่กระบวนการยุติธรรม เพื่อไม่ให้ปัญหานำไปสู่ความแตกแยกและความขัดแย้งของบ้านเมืองอีกครั้ง เพราะฉะนั้นในการอธิบายความในการทำหน้าที่ระหว่างกันก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งต้องขอขอบคุณพล.ต.อ.สมยศและสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย

แกนนำ นปช.พบ"สมยศ" ร้องทำคดีชายชุดดำให้เป็นธรรม


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายจตุพร ออกมาแบบนี้จะถูกสังคมมองว่าเป็นการออกมาปกป้องชายชุดดำและเป็นพวกเดียวกัน นายจตุพร กล่าวว่า ไม่มีการปกป้อง ซึ่งตนประกาศมาตั้งแต่ต้นว่า ความตายของทหารและประชาชนไม่ว่าจะเป็นการกระทำของชายชุดใด สีเสื้อใด หากเป็นการทำให้ผู้อื่นตายจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและภาพชายชุดที่เกิดขึ้นนั้น มีปรากฏเพียงเหตุการณ์เดียวคือเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 และความตายหลังจากนั้น ก็เกิดขึ้นอีกจำนวนมาก เพราะฉะนั้นเราไม่มีภาระหน้าที่ที่จะปกป้องชายชุดดำ เพราะไม่ว่าชายชุดใดก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะฆ่าคน ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือประชาชน หากกระทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมยืนยันว่า ทางแกนนำ และกลุ่ม นปช. ไม่มีเคยรู้จักหรือเกี่ยวข้องกับชายชุดดำแต่อย่างใด เพราะเรามีจุดยืนที่ชัดเจนว่า เราเป็นองค์กรที่ต่อสู้ทางการเมือง ต่อสู้ทางความคิด ไม่ใช่เป็นองค์กรที่ต่อสู้ทางการทหาร และขอเรียกร้องให้ตำรวจสืบหาผู้กระทำความผิดที่แท้จริงมาลงโทษให้ได้ ยืนยันว่าไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องและไม่รู้จักกับกลุ่มชายชุดดำ และมั่นใจว่าจะไม่สร้างความขัดแย้ง เพราะเป็นการออกมาตามกรอบกติกาไม่เป็นการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งนายจตุพร กล่าวอีกว่า หลังจากได้มาพูดคุยกับพนักงานสอบสวนในคดี และพล.ต.อ.สมยศ ก็เข้าใจด้วยดีว่าพนักงานสอบสวนส่งฟ้องชายชุดดำเรื่องของอาวุธปืนเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการยิง พล.อ.ร่มเกล้า จุดที่ตำรวจไปทำแผนก็เป็นสี่แยกคอกวัว เป็นคนละจุดกันที่พล.อ.ร่มเกล้า เสียชีวิตที่ถนนดินสอ หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา อาวุะก้คนละชนิดกัน ก็ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ชี้แจงเป็นอย่างดีเมื่อถามถึงกรณีที่ นายธนเดช เอกอภิวัชร์ หรือ ไก่รถตู้ ซึ่งเป็นคนขับถตู้ในวันก่อเหตุเมื่อปี 53 ที่ยังหลบหนีอยู่นั้น โดยมีข้อมูลเปิดเผยว่า เมื่อปี 53 มารดาของนายธนเดช ได้เสียชีวิต และมีรายชื่อของแกนนำ นปช.ได้ส่งพวงหรีดไปให้นั้น นายจตุพร กล่าวว่า ในเรื่องนี้ต้องขอให้ไปถามคนที่ส่งพวงหรีด เพราะตนไม่ได้ส่งไป จึงไม่รู้ว่า คนที่ส่งไปนั้นรู้จักกันในฐานะอะไร เพราะเรื่องพวงหรีดพอเวลามีคนเสื้อแดงถึงแก่ชีวิตก็จะมีการขอพวงหรีดไปทางใครต่างๆ เพราะฉะนั้นควรจะไปถามคนที่มีชื่อในพวงหรีดมากกว่าว่า ส่งไปร่วมในฐานะอะไร ซึ่งจะทำให้ได้ความจริงมากกว่าด้าน พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า วันนี้นายจตุพร ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงตนให้ช่วยดูแลหรือดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีต่างๆ ที่เป็นคดีความมั่นคงให้อยู่บนพื้นที่ฐานหรือหลักนิติธรรมและความถูกต้อง ซึ่งตนได้ชี้แจงกับนายจตุพร ว่า ตำรวจและพนักงานสอบสวนทุกท่านได้ยึดหลักและแนวนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า การดำเนินคดีหรือดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลต่างๆ และทุกฝ่าย ให้ทำด้วยความเสมอภาคยึดถือหลักยุติธรรมความถูกต้อง ไม่มีการให้ร้ายป้ายสีหรือกลั่นแกล้งอย่างเด็ดขาด โดยชี้แจงว่า คดีหลายคดีที่มีความสงสัยกัน เป็นคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ ซึ่งไม่เกี่ยวกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือตำรวจ และตำรวจเองก็ไม่ใช้วิธีการรุนแรงกับผู้ถูกกล่าวหาแต่อย่างใดพล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินการคดีชายชุดดำไม่เคยพาดพิงถึงกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลัง และไม่เคยกล่าวว่ากลุ่มชายชุดเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของพล.อ.ร่มเกล้า เพียงแต่จับกุมในข้อหาครอบครอบอาวุธสงครามเท่านั้น อีกทั้งจุดเกิดเหตุก็อยู่คนละจุดกับที่พล.อ.ร่มเกล้าเสียชีวิต แต่ถ้าหากการสอบสวนขยายผลว่ามีความเชื่อมโยงเจ้าหน้าที่จะดำเนินการโดยเด็ดขาด พร้อมยืนยันเจ้าหน้าที่ไม่เคยคุกคามบีบคั้นหรือทำร้ายร่างกายผู้ถูกกล่าวหาให้รับสารภาพ และพร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย นอกจากนี้ คดีทางการเมืองส่วนใหญ่จะเป็นความรับผิดชอบของดีเอสไอรวมถึงคดีการชุมนุมทางการเมืองเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 ด้วย ซึ่งคดีชายชุดดำของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่อยู่ในความรับชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่หากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษสืบสวนแล้วมีความเกี่ยวโยงกันทางกรมสอบสวนคดีพิเศษสามารถเข้ามาตรวจสอบต่อได้ ทั้งนี้ นายจตุพร ก็พอใจในการชี้แจงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

logoline