ธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีศาลอาญายกฟ้องคดีที่ดีเอสไอและอัยการสูงสุดสั่งฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ในข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล สืบเนื่องจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 โดยระบุว่ากรณีดังกล่าวเป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีอำนาจไต่สวน และชี้มูลความผิดก่อนยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า
หากพิจารณาแล้วจะเห็นความแตกต่างในการวินิจฉัยซึ่งแยกเป็นองค์คณะผู้พิพากษามีคำวินิจฉัยให้ยกฟ้อง ซึ่งองค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากไม่ได้วินิจฉัยว่าดีเอสไอทำผิด แต่วินิจฉัยว่าอำนาจการพิจารณาคดีเป็นของ ป.ป.ช.ขณะที่อธิบดีศาลอาญามีความเห็นแย้งว่าเป็นอำนาจของดีเอสไอ ดังนั้นจะเห็นว่ามีความเห็นต่างหลายฝ่าย อย่างไรก็ตาม สุดท้ายต้องฟังคำวินิจฉัยของศาลฎีกา ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ ระบุจะอุทธรณ์คดีที่ฟ้องตนและพนักงานสอบสวนฐานปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบเรื่อง แต่ถือเป็นสิทธิที่ทำได้ กระบวนการยุติธรรมโดยศาลจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย