โค้งสุดท้าย สปช.บิ๊กเนม ตบเท้าเข้าสรรหา

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ซึ่งเป็นสถานที่ที่เปิดให้องค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงหาผลกำไร ยื่นเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.-2 ก.ย. ซึ่งวันนี้ ( 29 ส.ค.) ถือเป็นวันที่ 16 ของการเปิดรับการเสนอชื่อ โดยตั้งแต่เช้ามีองค์กรนิติบุคคลเข้ามาเสนอชื่อจำนวนมาก โดยเฉพาะหลวงปู่พุทธอิสระประธานมูลนิธิวัดอ้อน้อย ที่นำบุคคลมาเสนอชื่อในนามมูลนิธิวัดอ้อน้อย มูลนิธิธรรมะอิสระ และมูลนิธิอโรคยา ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการขณะเดียวกันก็ได้มีบุคคลผู้มีชื่อเสียงมายื่นเข้ารับการสรรหาเพิ่มเติม อาทิ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีตนายทหารคนสนิทของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่ส่งโดยสมาคมชาวสงขลาเข้าสรรหาด้านกฎหมาย นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นพ่อของน.ส.จิตภัสร์ กฤดากร อดีตแกนนำกปปส. ถูกเสนอชื่อในนามสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เข้าสรรหาด้านเศรษฐกิจ
ด้านมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย(พีเน็ต) เสนอชื่อ นายสกุล สื่อทรงธรรม เลขามูลนิธิฯ เข้าสรรหาด้านการเมือง และเสนอชื่อนายประพจน์ ศรีเทศ ประธานพีเน็ตภาคเหนือ ในด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ส่วนสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้เสนอชื่อนายพิเชต สุนทรพิพิธ อดีตผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาคนแรกของประเทศไทย เข้าสรรหาด้านการเมือง และเสนอชื่อนางผานิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้าสรรหาด้านบริหารราชการแผ่นดิน และมูลนิธิพัฒนางานอัยการเสนอชื่อนายประพันธ์ นัยโกวิท อดีตกกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เข้าสรรหาด้านการเมือง สมาคมตลาดตราสารหนี้ เสนอชื่อนายพิสิฐ ลี้อาธรรม คณบดีเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อดีตรมช.คลัง เข้าสรรหาด้านเศรษฐกิจ
สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เสนอชื่อนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ เข้าสรรหาด้านเศรษฐกิจ สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน เสนอชื่อนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการพยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เข้าสรรหาด้านเศรษฐกิจ มูลนิธิเพื่อสถาบันฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรด้านปิโตรเลียม เสนอชื่อนายไกรฤทธิ์ นิลคูหา ประธานมูลนิธิ และนายวิโรจน์ มาวิจักขณ์ กรรมการอำนวยการบมจ.ไทยออยล์ เข้าสรรหาด้านพลังงาน
สมาคมศิษย์เก่ารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เสนอชื่อ นายสุภรัฐ จิราธิวัฒน์ รองประธาน ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทโรงแรมเซ็นทรัลพลาซาจำกัด (มหาชน) ด้านบริหารราชการแผ่นดิน สมาคมวู้ดบอลแห่งประเทศไทย เสนอชื่อ นายวิจิตร เกตุแก้ว อดีตนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เสนอชื่อ นายสิงหะนิภรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก มูลนิธิวัดอ้อน้อย เสนอชื่อ นายมหัศจักร โสดี กลุ่มประชาคมนักธุรกิจสีลม อดีตแนวร่วมกปปส. มูลนิธิต่อต้านโรคมะเร็งร.พ.ศรีนครินทร์ เสนอชื่อ น.พ.วันชัย วัฒนศัพท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า เข้าสรรหาด้านอื่น ๆ
ด้าน นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี กล่าวภายหลังการเข้าเสนอชื่อโดยในนามนิติบุคคลปาล์มพาวิลเลี่ยมคอนโด ด้านสังคม ว่า ตนเห็นว่ากระบวนการการตรวจสอบการทุจริตมีความล่าช้า เช่น การตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เนื่องจาก ป.ป.ช.มีคณะกรรมการ 9 คน และทั้ง 9 คนก็ต้องเป็นอนุกรรมการเพื่อตรวจสอบในแต่ละคดี จึงต้องใช้เวลามาก ดังนั้นตนคิดว่าเมื่อมีสภาปฏิรูปก็ควรที่จะเพิ่มบุคลากรในกระบวนการตรวจสอบด้วย เพื่อให้กระบวนการมีประสิทธิภาพมากขึ้น และตนมองว่ายุคสมัยนี้นักการเมืองจะทุจริตเชิงนโยบายร่วมกับเอกชน ตนจึงคิดว่าหากมีการตรวจสอบว่านักการเมืองและภาคเอกชนที่ร่วมกันทุจริตควรจะขึ้นตรงต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพียงศาลเดียว
อย่างไรก็ตามแนวทางการปฏิรูปในอดีตก็เคยมีการศึกษาไว้แล้วโดยคณะกรรมการปฏิรูปและสมัชชาปฏิรูป ที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน และนพ.ประเวศ วะสี เป็นประธาน ซึ่งตนก็คิดว่ามีความน่าสนใจ และหาก คสช.ต้องการจะปฏิรูปจริง ๆ ก็สามารถยิบยกขึ้นมาเป็นแนวทางในการปฏิรูปได้