"ประยุทธ์" รับทราบอาวุธหายจากคลัง ศาลทหารกรุงเทพ

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลทหารกรุงเทพ พล.อ.จิระ โกมุทพงศ์ เจ้ากรมศาลทหารพระธรรมนูญ พร้อมด้วย พล.ร.ท. กฤษฎา เจริญพานิช หัวหน้าสำนักงานตุลาการศาลทหาร ร่วมกันแถลงข่าว กรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่ามีอาวุธปืนที่ยึดมาจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สูญหายจากศาลทหารกรุงเทพ จำนวน54 กระบอกว่า ขอชี้แจงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22และ24 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่ศาลทหารกรุงเทพ มีนัดพิจารณาคดี ซึ่งต้องเบิกอาวุธปืนที่เป็นวัตถุของกลางในคดีมาประกอบการพิจารณา แต่ปรากฎว่าไม่พบของกลาง จึงมีการตรวจสอบบัญชีของกลางตั้งแต่ พ.ศ.2535ถึงปัจจุบัน พบว่า มีอาวุธปืนของกลางที่เก็บรักษาไว้ที่ห้องเก็บรักษาสูญหายไปจำนวน 46 กระบอก เป็นอาวุธมีทะเบียน 15 กระบอก นอกนั้นเป็นอาวุธเถื่อน และในจำนวนนั้น มี2 กระบอกอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี อีก 44 กระบอกคดีสิ้นสุดแล้ว แต่ยังไม่ได้ส่งคืนให้กับกรมสรรพวุธเพื่อนำไปทำลาย เพราะอาจจะมีการรื้อคดีขึ้นมาใหม่
ขอยืนยันว่า อาวุธปืนที่หายไปทั้ง 46 กระบอก เป็นอาวุธปืนสั้นทั้งสิ้นไม่ใช่อาวุธสงคราม และเป็นของกลางในคดีปกติ ซึ่งเป็นคดีที่จำเลยเป็นทหารเท่านั้น รวมถึงเป็นคดีที่เกิดขึ้นก่อนจะมีการประกาศใช้กฏอัยการศึก และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอาวุธปืนตามประกาศของ คสช. เนื่องจาก อาวุธปืนของกลางในคดีตามประกาศ คสช.ปัจจุบัน อยู่ในการดูแลของชั้นสอบสวนทั้งสิ้น ยังมาไม่ถึงศาลทหารกรุงเทพแม้แต่คดีเดียวพล.อ.จิระ กล่าว
พล.อ.จิระ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ชนะสงคราม กับนายทหาร2นายที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องคือ ร.อ.อ.ชินพล ออรุ่งโรจน์ ตำแหน่งประจำแผนกเก็บรักษา มีหน้าที่รักษาดูแลสำนวนคดีและของกลางในคดีอาญาของศาลทหารกรุงเทพ ร่วมถึงเป็นผู้ถือกุญแจห้องเก็บสำนวนคดีและตู้เหล็กเก็อาวุธปืนของกลาง ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำทหารอากาศ และ จ.ส.อ.สมเกียรติ ม้าย่อง ปฎิบัติหน้าที่แทนตำแหน่งเสมียนแผนกเก็บรักษา และมักจะได้รับมอบหมายจาก ร.อ.อ.ชินพล ให้นำกุญแจไปเปิดห้องเก็บรักษาสำนวนคดีและตู้เหล็กเก็บของกลางบ่อยครั้ง ซึ่งอยู่ในระหว่างการหลบหนี โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบสัญญาณการใช้โทรศัพย์มือปรากฎใน จ. นนทบุรี แต่ยังหาตัวไม่พบ และจะพยายามติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ จ.ส.อ.สมเกียรติ จะเป็นบุคคลที่สามารถยืนยันได้ว่า ร.อ.อ.ชินพล มีส่วนรู้เห็นหรือไม่
พล.อ.จิระ กล่าวอีกว่า สำหรับขั้นตอนการเก็บรักษาของกลางของศาลทหารกรุงเทพนั้น ปฎิบัติตามระเบียบข้าราชการ 2532 โดยที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไร แต่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ทบทวนระเบียบราชการทหาร 2535 ว่ามีความล้าสมัยอย่างไร และจะพัฒนาระบบการจัดเก็บให้มีความรัดกุมยิ่งขึ้น โดยอาจจะสร้างเป็นลูกกรงเหล็กอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ยังให้ศาลทหารจังหวัดทหารบกและศาลทหารมณฑลทหารบก ทั่วประเทศตรวจสอบของกลางทั้งหมดที่อยู่ในความดูแล ว่ามีของกลางสูญหายหรือไม่ และกำชับให้มีการตรวจตราอย่างเข็มงวด ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์วัวหายแล้วล้อมคอก อย่างไรก็ตาม ตนได้นำเรียนเรื่องดังกล่าวกับ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้รับทราบแล้ว และคาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. คงได้รับทราบแล้วเช่นกัน
ด้าน พล.ร.ท.กฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า มองว่าปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดจากระบบ แต่เกิดจากเจ้าพนักงานที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำของกลางออกไป โดยคาดว่าเป็นกานทยอยนำออกไป ส่วนจะไปตกอยู่ในมือของใครนั้นอยู่ในระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในศาลทหารกรุงเทพพบว่า ไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามาในสถานที่จัดเก็บของกลาง อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบหมายให้ฝ่ายวิชาการ สำนักงานตุลาการศาลทหาร ได้ไปศึกษา ระเบียบข้าราชการ 2532 ว่ามีจุดไหนที่เป็นช่องโหว่ พร้อมทั้งปรับแก้ให้เหมาะสม