รอง ผบช.น.ยันมือปาบึ้ม เป็นแก๊งเดียวกัน

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 20 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. แถลงผลกรณีเกิดเหตุคนร้ายใช้ระเบิดปาใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. บริเวณด้านหลังเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จำนวน 2 จุด เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา ว่าคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30-35 ปี รูปร่างสันทัด สูงประมาณ 172 ซ.ม. สวมเสื้อยืดคอกลม สีขาวด้านใน และสวมเสื้อแจ๊คเก็ตสีเขียวอ่อนแบบมีซิปรูดด้านหน้า มีแถบสีน้ำเงินเข้มด้านข้างกางเกงสีครีม รองเท้าสีขาวหัวสีดำ สวมหมวกแก๊ปสีดำ มีเป้สะพายข้างสีดำ มีสายนกหวีดและมีนกหวีดคล้องคอได้เดินไปที่บริเวณช่องทางเดินระหว่างร้านชานมไข่มุกกับเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งทั้ง 2 ร้านอยู่ด้านหลังเวทีปราศรัย และเต็นท์ผู้สื่อข่าวซึ่งเป็นที่พักของแกนนำ กปปส. โดยจุดที่คนร้ายยืนปาระเบิดห่างจากจุดที่ระเบิดตกประมาณ 5 เมตร จากนั้นคนร้ายได้หาโอกาสเตรียมปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมโดยถอดสลักระเบิดแล้วกำไว้ที่มือขวา ต่อมาคนร้ายจึงได้ปาระเบิดไปที่เต็นท์หลังเวที แต่ระเบิดไปถูกกิ่งไม้ทำให้แฉลบออกมาด้านข้างเต็นท์ จากนั้นได้วิ่งหลบหนีไปทางถนนราชวิถี โดยได้วิ่งหลบหนีไปถึงบริเวณปากซอยราชวิถี 13  รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า ระหว่างนั้นได้มีการ์ดกลุ่มผู้ชุมนุมเห็นเหตุการณ์จึงวิ่งตามคนร้ายไป คนร้ายได้ปาระเบิดลูกที่ 2 เพื่อเปิดทางหนี ก่อนจะวิ่งหนีเข้าไปในซอยราชวิถี 14 จนถึงบ้าน นายมานพ หรือบังหมัด ชนินนัตติพงศ์ นายมานพ ได้ยินเสียงตะโกนให้ช่วยจับคนร้าย จึงพยายามจะจับตัวคนร้าย แต่คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่บริเวณท้องจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายได้วิ่งต่อไปที่ท้ายซอยราชวิถี 14 ซึ่งเป็นทางตันและมีรั้วสังกะสีกั้น คนร้ายจึงได้พังรั้วสังกะสีแล้ววิ่งหลบหนีไปตามทางเดินเลียบคลองสามเสนมุ่งหน้าไปทางวัดมะกอกทะลุออกใต้ทางด่วนวัดมะกอก(ซอยราชวิถี 18) และได้ขึ้นจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งคนร้ายได้ว่าจ้างให้ไปส่งที่สะพานซังฮี้ เมื่อไปถึงสะพานซังฮี้ คนร้ายได้ให้ไปส่งต่อที่วัดรวก บางบำหรุ จากนั้นคนร้ายได้หายเข้าไปในซอยวัดดังกล่าว พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ได้ตรวจที่เกิดเหตุพบ จุดระเบิดที่ 1 พบกระเดื่องตกอยู่บริเวณผิวถนนใกล้เต็นท์หลังเวทีปราศรัย 1 ชิ้น จุดระเบิดที่ 2 พบสลักระเบิด 1 ชิ้นตกอยู่บนพื้นผิวถนนห่างจากจุดที่เกิดระเบิด 4 เมตร และพบกระเดื่อง 1 ชิ้นอยู่ในกองเสื้อผ้าที่วางไว้ที่แผงขายเสื้อผ้า ห่างจากจุดระเบิดประมาณ 3 เมตร ซึ่งระเบิดที่ใช้เป็นระเบิด RGD 5 ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง นอกจากนั้นทางหน่วยเก็บกู้ได้ตรวจสอบพบว่า กระเดื่องนิรภัยที่พบทั้ง 2 จุด เป็นชุดเดียวกัน ทำให้สันนิษฐานได้ว่าคนร้ายใน 2 เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งสิ้นจำนวน 29 ราย นำส่ง 4 โรงพยาบาล คือ รพ.พระมงกุฎ 2 ราย รพ.รามาธิบดี 9 ราย รพ.ราชวิถี 13 ราย รพ.จุฬาลงกรณ์ 4 ราย และ รพ.พญาไท 2 จำนวน 1 ราย ภายหลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และได้สอบสวนพยานไว้แล้ว 5 ปาก โดยจะเร่งรัดสืบสวนสอบสวนนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวด้วยว่า จากกรณีดังกล่าวกองบัญชาการตำรวจนครบาลจึงขอย้ำเตือนมายังพี่น้องประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมชุมนุม เนื่องจากได้รับรายงานจากการข่าวอย่างต่อเนื่องว่า มีผู้ไม่หวังดีจะเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่การชุมนุม ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งระดมกำลังเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชน โดยมีการเพิ่มจุดตรวจจุดสกัดโดยรอบพื้นที่การชุมนุมอย่างเข้มงวด และขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันสอดส่องผู้ไม่หวังดีที่จะเข้ามาก่อเหตุ หากพบบุคคุลต้องสงสัยให้โทรแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือสถานีตำรวจใกล้เคียงได้ทันที