Review สถานที่ท่องเที่ยว 12 เมืองต้องห้ามพลาดจังหวัดลำปาง

ที่จังหวัดลำปาง เรียกได้ว่าเป็นจังหวัด ที่ยังคงอารยธรรมล้านนาไทยไว้ไม่เสื่อมคลาย ทั้งวิถีชีวิต วัดวาอาราม และสถาปัตยกรรมท้องถิ่น และเมื่อมาที่ลำปางทั้งที ปาล์มไม่พลาดที่จะมากราบสักการะวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองกันก่อนที่ "วัดพระธาตุลำปางหลวง"
วัดพระธาตุลำปางหลวงเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของลำปางมาแต่โบราณ และก็เป็นชื่อที่มาของเมืองลำปางในปัจจุบันเป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดของเมืองไทย อีกทั้งพระธาตุลำปางหลวง ก็ยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีฉลูอีกด้วย

นอกจากนี้พระธาตุลำปางหลวงยังเป็นที่ประดิษฐานของ พระแก้วดอนเต้า พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปาง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะล้านนา สลักด้วยหยกสีเขียว ซึ่งในวันเพ็ญเดือน 12 ของทุกปีที่นี่จะมีการนมัสการพระแก้วดอนเต้าเป็นประจำทุกปี

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาที่นี่นอกจากจะมาสักการะพระแก้วดอนเต้าแล้ว ก็จะมาดูสิ่งมหัศจรรย์ของวัดแห่งนี้ ที่ไม่อยากให้พลาดโอกาสไปชมให้ได้ก็คือ พระธาตุหัวกลับ ซึ่งพระธาตุหัวกลับซึ่งองค์จริงจะอยู่ภายในซุ้มพระบาท แต่ว่าซุ้มพระบาท ห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้น ทางวัดก็เลยจำลองเงาพระธาตุหัวกลับไว้ที่วิหารลายคำ ให้คนทั่วไปสามารถเข้าไปชมได้
เพื่อความเป็นสิริมงคล มาถึงลำปางต้องไปไหว้พระเกจิชื่อดังเมืองลำปาง "หลวงพ่อเกษม เขมโก" พระสายวิปัสสนา ที่สำนักปฏิบัติธรรม โดยหลวงพ่อเกษม เขมโก" เป็นพระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐานที่เคร่งครัดในวัตรปฏิบัติตั้งอยู่ในความสมถะ ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเคยเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมหลวงพ่อเกษม เขมโก ณ สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ภายในสะดุดตาด้วยรูปปั้นของหลวงพ่อเกษมขนาดใหญ่ที่เห็นได้มาแต่ไกล อีกทั้งยังมีมณฑปที่สร้างขึ้นมาเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ซึ่งมี สังขารร่างกายของหลวงพ่อที่ไม่เน่าเปื่อยในโลงแก้ว และรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อเกษมเขมโกนั่งขัดสมาธิเท่ารูปจริงเพื่อให้ประชาชนได้สักการะกัน

อีกหนึ่งวัดที่ปาล์มจะพลาดไม่ได้เลยเมื่อได้มาที่ลำปางแล้ว ก็คือที่วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม ที่นี่ก็เป็นวัดที่เก่าแก่ สวยงาม มีอายุนับพันปีเลยทีเดียว ที่วัดพระแก้วตอนเต้า เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต มานานกว่า 32 ปี โดดเด่นด้วยมณฑบศิลปะพม่า ที่มีหลังคาสูงลดหลั่นกัน ด้านในประดับกระจกสีอย่างพม่าและเป็นที่ประดิษฐานพระบัวเข็ม พระพุทธรูปสำริดลงรักปิดทองศิลปะแบบพม่า นอกจากนี้ยังมีเจดีย์องค์ใหญ่และวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์อีกด้วยวัดอีกแห่งในเมืองลำปาง ที่มากด้วยความน่าสนใจทั้งประวัติความเป็นมา และสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า คือวัดปงสนุก โดยสร้างขึ้นในสมัยที่เจ้าอนันตยศ บุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญไชย เมื่อพ.ศ.1223 หรือเมื่อประมาณ 1300 กว่าปีมาแล้วนั่นเอง

ที่มาของชื่อปงสนุกมาจากถิ่นเดิมในเมืองเชียงแสนเนื่องจากในอดีตชาวเชียงแสนถูกต้อนมาอยู่บริเวณนี้ ภายในวัดปงสนุกเป็นแหล่งรวบรวมสิ่งสำคัญหลายอย่างที่มีคุณค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรมสถาปัตยกรรม ด้วยความที่เป็นวัดเก่าก็ยังมีข้าวของเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาเช่น พระพุทธรูปไม้เสาหงส์ซุ้มประตูโขง พระธาตุศรีจอมไคล พระธาตุสีเหลืองทองอร่าม เป็นที่เคารพสักการะของชาวลำปาง และวิหารพระเจ้าพันองค์ที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเมืองลำปางองค์ วิหารโถงทรงจัตุรมุขที่มีรูปแบบงดงาม เป็นวิหารหลังเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศ ที่รวบรวมทั้งงานด้านจิตรกรรม สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างไทย จีน พม่า ผสมผสานเข้าไว้ด้วยกันอย่างสวยงาม

นอกจากวัดแล้วยังมีสิ่งก่อสร้างที่มีความเป้นมายาวนานได้แก่ สะพานรัษฎาภิเศก หรือที่ชาวลำปาง จะเรียกกันว่า สะพานขาว ค่ะ แต่เดิมก็เป็นสะพานไม้เสริมเหล็ก ชำรุดผุพัง จนเมื่อปีพ.ศ. 2460 มีการบูรณะเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก สีขาวโดดเด่นสดุดตา เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของจังหวัดลำปางที่เมื่อได้มาที่ลำปางแล้วต้องห้ามพลาด โดยสะพานรัษฎาภิเศก สร้างขึ้นในสมัยเจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต เจ้านครลำปาง โดยชื่อรัษฎาภิเศกนั้นมาจากการสร้างสะพานเพื่อน้อมเกล้าฯถวายเป็นที่ระลึกในพิธีรัชดาภิเษกของรัชกาลที่ 5 ก่อนมีการบูรณะอีก 2 ครั้ง มีการบูรณะเป็นสะพานคอนกรีต เสริมเหล็ก สีขาวโดดเด่นสดุดตา และกลายเป็นสะพานโดดเด่นคู่เมืองลำปางตั้งแต่นั้น

อาคารหม่องโง่ยซินเป็นอาคารขนมปังขิงริมถนนที่งดงามที่สุดในประเทศไทย ทั้งยังได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๐ ประเภทอาคารอนุรักษ์สถาปัตยกรรมล้านนา และทุกๆเย็นเสาร์อาทิตย์ ก็จะมีถนนคนเดิน กาดกองต้า แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตของลำปางในยามค่ำคืน ให้ชวนกันไปเดินเล่น ช็อป ชิม ชิลกัน

และสถานที่สำคัญที่ย้อนรอยรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คือที่บ้านป่องนัก ซึ่งบ้านป่องนัก เป็นภาษาคำเมืองที่คนภาคเหนือเรียกกัน โดยคำว่า "ป่อง" นั้นหมายถึง หน้าต่าง คำว่า "นัก" หมายถึง มาก "บ้านป่องนัก" จึงหมายถึง บ้านที่มีหน้าต่างจำนวนมาก ตัวบ้านเป็นสถาปัตยกรรมยุโรปแบบคลาสสิก ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบไทย มีหน้าต่างแบบแป้นเกล็ดมากถึง 250 บาน ช่องหน้าต่าง 469 ช่อง บ้านป่องนักเคยใช้เป็นพลับพลาที่ประทับของรัชกาลที่ 7 ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนมณฑลพายัพและได้จัดให้เป็นพลับพลาที่ประทับอีกครั้งเมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมราษฎรในภาคเหนือปัจจุบันนี้บ้านป่องนักก็กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ มีอายุราว 90 ปีแล้ว เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ภายในบ้านป่องนัก ได้มีการแสดงเรื่องราวความเป็นมาของจังหวัดลำปาง และศิลปวัฒนธรรมอุปกรณ์ของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ ทั้งห้องทรงงาน ห้องเสวย ห้องบรรทม ซึ่งถูกเก็บรักษาไว้เหมือนเดิมทุกประการ รวมถึงพระบรมฉายาลักษณ์เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประทับที่บ้านป่องนักแห่งนี้

สำหรับของฝากขึ้นชื่อที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาที่ลำปางแล้ว ก็คือเครื่องเซรามิกโดยเฉพาะชามตราไก่นั่นเอง ซึ่งต้นกำเนิดของ ชามตราไก่แบบดั้งเดิมก็ต้องที่นี่ ธนบดีเซรามิค นอกจากจังหวัดลำปางจะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งรถม้าแล้ว ที่นี่ยังมีศูนย์ฝึกลูกช้างแห่งเดียวและแห่งแรกของโลกค่ะ "ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย" และที่นี่ปาล์มมีโอกาสได้พบพลายจาปาตี เป็นช้างลูกครึ่งไทย-อิสราเอล และเป็นพ่อของ พลาย"ปฐมสมภพ" ช้างที่เกิดจากการผสมเทียมเชือกแรกของไทย และเป็นช้างที่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานชื่อให้

ที่ลำปางยังมี unseen อีกแห่งที่รอทุกคนไปดูความสวยงาม ได้แก่ วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ หรือเดิมที่เรียกกันว่า วัดพระบาทปู่ผาแดง ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปางนั่นเอง สิ่งที่โดดเด่นและทำให้วัดนี้มือชื่อเสียงโด่งดังนั่นก็คือ ภาพอันงดงามขององค์พระธาตุเจดีย์หรือพระสถูปเจดีย์ที่สร้างบนภูเขาสูงเสียดฟ้า ล้อมรอมด้วยทิวเขาสูง เรียกได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดมาจากแรงศรัทธาของมนุษย์นั่นเอง จึงเกิดเป็นภาพที่สวยงาม และดึงดูดให้ใครหลายๆคน อยากเดินทางมาที่วัดแห่งนี้