"พระเครื่อง"ศรัทธา-กำไรมหาศาล

จัดโดย คณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 54 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2560 ที่ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร บางคนเช่าเพื่อให้แคล้วคลาดจากภยันตราย บางคนเช่าเพื่อเสริมบารมี ซึ่งธุรกิจวงการพระเครื่องในประเทศไทยนั้นยังคงเติบโตทุกปี โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยผลสำรวจของปี 2559 ว่ามีคนเล่นพระมากถึงสิบล้านคนทั่วประเทศ

พระเครื่องถือเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจที่อยู่คู่สังคมไทยมายาวนานตั้งแต่สมัยอดีตที่ผู้คนเช่ามาครอบครองเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจและปกป้องให้แคล้วคลาดจากภัยต่างๆ ซึ่งพระเครื่องนั้นหลักๆ แล้วทำจาก เนื้อชิน ดิน ผง โลหะ มูลค่าขึ้นอยู่กับความนิยม, จำนวนการสร้าง รวมไปถึงกระแสงสังคมในขณะนั้น โดยพระเครื่องจะได้รับการปลุกเสกจากพระ แต่พุทธคุณอาจเสื่อมไปบ้างหากมีการทำผิดศีลข้อห้ามต่างๆเช่น ห้ามด่าว่าบุพการี ห้ามประพฤติผิดในกาม เป็นต้น ซึ่งถือเป็นกุศโลบายที่ทำให้ผู้ครอบครองดำเนินชีวิตอย่างมีสติและไม่ประมาท

นักสะสมพระเครื่องเชื่อว่าการเช่าพระเครื่องนั้นดีกว่าการฝากเงินที่ธนาคารเพราะราคามีแต่จะเพิ่มขึ้น ยิ่งเป็นรุ่นนิยมด้วยแล้วยิ่งได้ราคาดี สำหรับราคาการซื้อขายขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย ถ้าโชคดีก็เช่าในราคาดี ถ้าโชคร้ายก็ราคาแพงหรือไม่ก็โดนหลอก ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่นักสะสมพระทุกคนประสบมาหมด ซึ่งประสบการณ์ ความใฝ่รู้ การติดตามข่าวสาร ครูพักลักจำ กล้าซื้อกล้าขาย จะค่อยๆบ่มเพาะจนเกิดความชำนาญ และกลายเป็น "เซียนพระ" ในที่สุด ยิ่งสมัยนี้มีเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย เวลามาส่องพระแล้วสงสัยก็แค่โทรหรือถ่ายรูปส่งไลน์ไปถามคนรู้จักได้ทันที

การที่จะเริ่มต้นสะสมพระเครื่องนั้นไม่ยาก ขอแค่คุณมีทุนทรัพย์และอุปกรณ์คู่ใจ ซึ่งก็คือ "กล้องส่องพระ" อันจิ๋ว แต่ราคามีตั้งแต่ 3 พันบาทไปจนถึงหลักแสน ตามยี่ห้อและคุณภาพ ที่นิยมจะเป็นกล้องส่องเพชรยี่ห้อ Carl Ziess จากนั้นใช้เทคนิคง่ายๆ คือ เช่าพระแท้ที่สนใจมาศึกษา ซึ่งนักสะสมพระเครื่องส่วนมากมักมีความสุขกับการส่องพระ เป็นการเสพย์งานศิลปะในมือแทนที่ในพิพิธภัณฑ์ เพราะพวกเขาคิดว่าพระเครื่องคือพุทธศิลป์ที่บ่งบอกเรื่องราวภายร่องรอยในเหรียญ และสามารถใช้เวลาเป็นวันๆ กับการก้มๆ เงยๆ อยู่หน้าตู้กระจก