svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ไลฟ์สไตล์

จับตา 10 เทรนด์ 2017 !

06 มกราคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

มิเพียง 2016 จะเป็นปีที่หลายๆ เทรนด์ ดูอ่อนล้าโรยแรงลงไปมาก ทว่า การปั่นจักรยานที่เหมือนจะบูมขึ้นมาก่อนหน้านั้น ก็หมดเรี่ยวแรง.. ของตัวเองลงไปด้วย

มิเพียง รสชาติของเทรนด์ Food Truck จะไม่ค่อยอร่อยเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่ "น่าน ปาย และ ภูทับเบิก" ที่เคยหนาแน่นด้วยไลฟ์สไตล์ชนชั้นกลางยุคใหม่ ก็ดูจะห่างเหินและห่างหายสถานที่ดังกล่าวไปอย่างรวดเร็ว
และ - มิเพียงคนรุ่น Generation X จะไม่ยอมแก่ด้วยความสนุกสนานใน Social Media คนรุ่นขอบหลังของ "เบบี้บูม" ยังดูสดชื่นและสดใส ด้วยกิจกรรม volunteer ตามจังหวะและเหตุการณ์ของสังคมไทยอย่างน่าชื่นใจ...
นี่คือภาพผ่านๆ ที่มองเห็นเมื่อชายตาเหลียวหลังกลับไปในช่วงขวบปีที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อฟ้าใหม่ของปี 2017 ลืมตาขึ้นมา ยังจะ Trends ใหม่ๆ ที่กำลังเดินทางมาสู่ปีไก่ ที่รอการขันในเสียงใหม่ๆ
และนี่คือ 10 เทรนด์ ที่น่าสนใจและน่าจับตามอง...

จับตา 10 เทรนด์ 2017 !



1.Upper Lifestyle

จะบอกว่าเทรนด์อันแรกนี้ กระเพื่อมอย่างเป็นเรื่องเป็นราวจนรู้สึกได้มาตั้งแต่ปลายปี 2016 ก็น่าจะได้ Upper คือการที่แบรนด์ ปรับตัวเองจากภาวะของเศรษฐกิจตก ที่น่าจะกินเวลายาวนาน หันมาทดลองจับกลุ่มผู้บริโภคในระดับบน
เช่นรถยนต์บางค่ายออกรุ่นพิเศษ ที่ราคาแพงขึ้นไปอีก, ร้านกาแฟชื่อดัง เปิดช็อปบางพื้นที่โดยเสนอกาแฟราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิม โดยมีฉากหลังในการเร้า ยั่ว เชื้อเชิญ การเข้าไปใช้บริการ (แทนการที่จะแข่งกันตัดราคาแบบกาแฟทั่วไป) คนโฆษณาท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า แม้แต่เครื่องเสียง ก็ up เรียบร้อย ด้วยการสั่งสินค้าแพงๆ มีจำนวนจำกัดเข้ามาขาย ระดับหูฟังเหยียบหมื่น ลำโพงข้างเดียวเกือบสองล้านบาท
อาจจะบอกว่าเป็นจริตหรือรสนิยมก็ตาม แต่นี่คือการสวนทางของการตลาด เพราะขณะที่ใครต่อใครอาจจะแข่งกันลด ตัดราคาเพื่อได้ยอดขาย แต่แบรนด์บางส่วน มองเห็นอาการ upper ผ่านไลฟ์สไตล์ เพราะเมื่อจ่ายแล้วได้ "ภาพลักษณ์" และสถานะที่สูงขึ้น มันคือเสียงอย่างหนึ่งในการประกาศตัว !

2.Healthy Living Solutions

ข่าวเล็กๆ ของ BBC ที่บอกว่า มีการเปิดบริการ "เข้าค่ายทางจิตใจ" ด้วยการล้างมลพิษจากชีวิตยุคใหม่ ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการหลีกหนีชีวิตแบบเมืองๆ นั่นเอง เราจะเห็นว่ากิจกรรมค่อยๆบูมขึ้นมาคือการชะล้างมลพิษ จากชีวิตที่เร่งรีบและจมปลักอยู่กับเทคโนโลยี ซึ่ง Wired เล่มใหม่เรียกว่า anti-digital tribe
ในบ้านเรา มีหลายๆแบบ อาทิ การจัดกลุ่มไปอยู่บนเกาะไกลโพ้น โดยอยู่กับธรรมชาติ งดมือถือ กินอยู่กับสายลมแสงแดด บางกิจกรรมไม่อยากเสียเวลาเดินทาง ก็หาอาศรมในเมือง หรือรอบนอก เป็นที่พึ่งพิงของชีวิตที่อยากหลีกหนี ...หรือถ้ามีกำลังหน่อย ก็จัดไปอินเดีย พม่า หรือลาว ที่มีการสแกนสถานที่ มีเรียบร้อยว่า ได้ดื่มด่ำสัมผัส healthy living solutions แบบตัวจริง เสียงจริง

3.Prestige Exclusive Trips

ต้องเข้าใจก่อนว่า ทริปการเดินทางต่างๆที่เกิดขึ้นในรอบหลายปีมานี้ ต่างค่อยๆ ปรับ "เนื้อหา" และภาพลักษณ์ตัวเองไปเรื่อยๆ การสร้างทริปจึงมีหลากหลายรูปแบบ โดยมีหัวใจคือการขาย new experience ให้กับผู้เดินทาง การไปในที่ไม่บอบช้ำและยังเป็นของใหม่ เป็นที่ปรารถนาของหลายคน เพราะมันคือการบ่งบอกตัวตนของคนไปด้วย
petra mountain ที่จอร์แดน, เลห์ ลาดักห์ที่อินเดีย, local farm ที่มองโกเลีย, แสงเหนือที่ไอซ์แลนด์ หรือสารพัดแหล่งในอิหร่าน กำลังมาแทนที่การไปขี่รถสปอร์ตเฟอร์รารี่ในอิตาลี หรือ นั่งชิงช้าสวรรค์เลยๆ ในลอนดอน
ทริปแบบนี้ หัวใจอยู่ที่การทำให้คนไปรู้สึกพิเศษ มีจำนวนจำกัด และเป็นพวกแรกๆ ที่ได้สัมผัส ถ้าเป็นแนว sports ก็คือการไปดูฟุตบอล เทนนิส รถแข่ง หรืออเมริกันฟุตบอล แล้วหลังเกม ก่อนเกม ได้ทานข้าวกับนักกีฬาดังๆ เพื่อเซลฟี่ว่า พวกเราคือกลุ่มพิเศษ

4.Individual Marketing

ในบรรดาทุกเทรนด์ที่ผมเขียนในครั้งนี้ ข้อที่ 4 น่าจะเป็นเทรนด์ที่มีไซส์หรือขนาดใหญ่ที่สุด เราจะเห็นว่า แทบทุกแบรนด์หันมาใช้การตลาดกับลูกค้า ทุกช่องทาง ที่จะสามารถประกาศ "ตัวตน" ของคนซื้อหรือผู้ใช้ โดยแสดงถึงความเป็น individual แบบชัดเจน
กล่าวคือ ไม่ใช่แค่การเซลฟี่ว่าทำอะไร แต่อะไรก็ได้ ที่จะสามารถบ่งบอก นำเสนอ ส่งเสียงแห่งตัวตนของเขาคนนั้น ใครคนนั้น การตลาดแบบนี้ก็จะได้รับความนิยมทันที พูดง่ายๆ ก็คือ มันคือ marketing ที่โชว์ตัวตนของคนใช้ และสารพัดวิธีจึงมีมากมายในการนำเสนอ เพราะ unsung hero ไม่จำเป็นต้องมาจากแนวทางเดิมๆ อีกต่อไป...
เมื่อสังคม "หิว" ก็มีการตลาด "หยิบยื่น"

5.Live-Streaming Entertainment

อุตสาหกรรมบันเทิงระดับโลกได้ค้นพบแล้วว่า โรงงาน hollywood ไปต่อไม่ได้ เงินชนเพดาน ตลาดไม่มี hollywood เลยขายตัวพลีร่างให้กับ chinawood โดยที่ระหว่างปี 2016 ส่งไม้ต่อให้ปี 2017 นี้ การเกาะเกี่ยว live-streaming เป็นตลาดใหม่ที่ขายได้อีกมาก ดังจะเห็นได้ว่า Game of Thrones ทำการขายต่อ ด้วยการจัด live concert ถ่ายสดตัวเองผ่านไปยังทั่วโลกในปีหน้านี้
เมื่อเป็นแบบนี้ ออสการ์ก็คิดแตกขยายต่อไปว่า ถ้าจะทำการขายสด ถ่ายสด เล่น real time แบบ live-streaming ที่คนดูทั่วโลกเข้ามามีส่วนได้นั้น ถ้าคลำทางถูก มันจะมีมูลค่าเท่าไหร่
กระแสของ virtual reality หรือ VR ที่ถล่มโลกตอนนี้ คือส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้อุตสาหกรรมบันเทิง เอาคอนเทนท์มาเล่นใหม่ผ่านช่องทางนี้

6.Wearable Tech Trends

กราฟฟิคภาพหนึ่งในหนังสือ The Escapist สีฟ้าของสำนัก monocle ที่ดูไม่มีอะไรพิเศษ แต่ดันถูกลงซ้ำคล้ายๆ กันใน Wired 2017 ปกทองดำ ก็คือ คนยุคใหม่ต่าง "กิน นอน ทำงาน เดิน" โดยมีเทคโนโลยีกำกับ "โดยเฉพาะพวกแทรคเกอร์"
ปี 2017 จะมี tech trends ในตลาดออกมาอีกมากมาย และมีฟังก์ชั่นสามารถออกแบบ ดีไซน์ ชีวิตประจำวันให้เข้าสู่โหมดของการออกกำลังกาย ตั้งแต่เดินใช้บันไดในออฟฟิศ แทนการขี้นลิฟท์, นั่งทำงานโดยมีไอทีกระกิดให้ดื่มน้ำเป็นระยะๆ, ถึงเวลาทานอาหาร ก็มองไปที่หน้าจอแทรคเกอร์ เพราะมันจะบอกว่า ควรจะกินอาหารประเภทใด ที่ลดพุง ลดไขมัน ด้วยมีภาพอาหารขึ้นจอ
ไอทีแบบใหม่พวกนี้ จะมีสภาพเหมือนเทรนเนอร์ คอยส่งเสียงบอกเราว่า จะต้องกินน้ำ ทานอาหาร ออกกำลังกายอย่างไร ในแต่ละวัน !

7.Sport Marketing "Change"

การตลาดที่เกี่ยวพันกับกีฬา รุนแรงมาตั้งแต่ปี 2014 แล้วดังนะเห็นได้ว่า แผนก ฝ่าย ของมาร์เก็ตติ้งต้องกระโจนเข้าไปเกาะ sports ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ตัวใดก็ตัวหนึ่ง (แต่โดยมากมักเป็นฟุตบอลกับวิ่งมินิมาราธอน แม้ว่าการปั่นจักรยานจะสะท้อนตัวตนได้มากกว่า ทว่า การวิ่งก็มีลักษณะพวกพ้อง กลุ่มก้อน เหมือนฟุตบอล)
เมื่อผ่านระยะทางมาพักหนึ่ง ปี 2017 คือการ "เปลี่ยน" อีกครั้งของเทรนด์กีฬา ที่บีบแคบลงและมีความพิเศษมากขึ้น เช่นต้องไปต่างประเทศ อาทิ วิ่งมาราธอนที่ญี่ปุ่น, ปั่นจักรยานตามรอยตูร์ เดอ ฟรองซ์, เตะฟุตบอลกับนักบอลดังที่รีไทร์, ปีนเขาในขั้วโลกเหนือ, แข่งไตรกีฬาในยุโรป ฯลฯ
จุดร่วมหนึ่งที่ชัดเจนคือ การ move ไปใช้สถานที่ต่างประเทศ และถ้าผ่านขั้นตอนการสมัครหรือมีลักษณะจำกัดด้วย ก็จะยิ่งดี

8.Old Town & Folk Culture

เทรนด์ที่แข็งแรงมากในปี 2016 อันนี้ ยังคง สตรอง ! ในการจับกลุ่มผู้สนใจที่ถวิลหาชีวิตหมุนโลกให้ช้าลงต่อไป สถานที่พักแบบชุมชนย่านเก่า โดยเฉพาะถ้าติดอยู่ข้างวัด เป็นอะไรที่นิยมมาก ย่านชุมชนเก่ากลับมาบูม ถึงขนาดเจ้าสัวบางตระกูล ต้องเข้าไปกว้านซื้อพื้นที่ชุมชนย่านเก่า เพื่อปรับอารมณ์ความรู้สึกแบบเก่า มานำเสนอขายชนชั้นกลางใหม่ ที่โหยหาวันคืนในวัยเยาว์...
ขณะเดียวกัน การจัดทริปทัวร์ไปบุก เยือน สัมผัส บ้านท้องนา ผ้าท้องถิ่น ยังคงแรงต่อไปอีกปี

9.Park Line City

จากนิวยอร์คมาปารีส จากแมนฮัตตันกลับไปลอนดอน... เทรนด์การปรับพื้นที่เสื่อม เช่น ทางรถไฟเก่าตายซากไม่ใช้แล้ว หรือ สถานีชุมทางรถไฟที่หมดอายุขัย ให้กลายมาเป็นสวนสวย หรือ park ที่มีร้านกาแฟ ร้านหนังสือ บูมมากในยุโรป จนเกิดไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวที่นิยมไป park line เล่นคำพ้องกับ park
เมื่อมันบูม ฮ่องกงก็จะทำบ้าง เพราะมันคือการ renovate พื้นที่เก่าไม่มีมูลค่า ให้กลับมาหาเงินได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขนาดมี pocketbook รวม park lane & park line ทั่วโลก
และมีข่าวว่า ททท. กำลังจะทำสิ่งนี้กับเอกชน

10.Drama Queen & Emotional Products

น่าสังเกตว่า ปี 2016 ที่ผ่านเลยนั้น การตลาดขายสินค้าหลายค่าย หันมาใช้มาร์เก็ตติ้งที่เกี่ยวกับอารมณ์ดราม่า เร้าความรู้สึกแบบฟูมฟายมากขึ้น สตรอรีย์ต่างๆ ทั้งจริงบ้างเซ็ทบ้าง ถูกประเคนเข้าใส่คนดูทีวี มีทั้งการเงินการธนาคาร ไปจนถึงน้ำพริกปลาทู (ต้องยกเครดิตให้ไทยประกันชีวิตที่ถางทางมาก่อน)
การที่สังคมไทยมีจุดอ่อน เปราะบางและอ่อนไหวง่ายกับหลายเรื่อง เป็นช่องทางหนึ่งให้นักการตลาดใช้กลยุทธ์นี้ เชื่อมต่อกับลูกค้า ถึงขนาดมีคนเอเยนซี่บางคนบอกว่า แบรนด์บางแห่งต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยสแกน "อารมณ์-ความรู้สึก" ของคนในสังคมไทยแต่ละช่วงว่า ตอนนั้น เวลานั้น มีรสนิยมดราม่ากันเรื่องอะไร เช่นดราม่าเรื่องจิตอาสา, ดราม่าเรื่องเพื่อพ่อ, ดราม่าเรื่องความดี, ก็คิดสตรอรีย์แนวทางนั้นออกมา
ทว่า ไม่เทรนด์จะหันหัว ไปทางไหน ไลฟ์สไตล์จะเร่าร้อนเพียงใดขอให้ผู้อ่านรู้ทันเทรนด์ การเสพวัฒนธรรมป๊อป ก็จะเป็นเรื่องสนุก สำหรับปี 2017

จับตา 10 เทรนด์ 2017 !



logoline