เราก็แวะมาเติมพลังกันก่อนที่ เรือนไทยกุ้งเผา (ทางเข้าวัดเชิงเลนบางไทร) ร้านอาหารซีฟู้ด บรรยากาศริมแม่น้ำ แบ่งเป็น 2 โซนคือบนยกและในเรือลอย เนื่องจากร้านที่เป็นที่นิยมกันมาก จึงแนะนำให้โทรมาจองโต๊ะกันไว้ก่อนนะค่ะ และแน่นอน เราไม่ได้จอง จึงต้องนั่งรอกันไปตามระเบียบ
ในที่สุด ไฮไลท์ของงานก็มาเสิร์ฟ กุ้งเผามันเยิ้มตัวโตๆ กลิ่นหอมๆ (มีให้เลือก 2 ขนาด คือ ขนาดใหญ่และกลาง) เรียกได้ว่าฟินกันสุดๆ
และยังมีเมนูอื่นๆอีกมากมายให้เลือกสรร ในราคามิตรภาพด้วยค่ะ
วันเวลาเปิดปิด: เปิดทุกวัน 10:30-18:00 น.
สอบถามรายละเอียด: โทร. 081-269-5061, 089-887-0871
Google Map: https://goo.gl/maps/oPMetqqUaxs
วันเวลาเปิดปิด: เปิดทุกวัน 8:00-18:00 น.
สอบถามรายละเอียด: โทร. 085-005-9948
Google Map: https://goo.gl/maps/DMmSupVs9mB2
ถือเป็นอีกที่หนึ่งที่พุทธศาสนิกชน นิยมมาสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต มีหลากหลายบุญให้ร่วมทำ ไม่ว่าจะเป็นปิดทอง เติมน้ำมันตะเกียง หรือมาบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
Google Map: https://goo.gl/maps/AaHPSemMXgn
เป็นร้านขนมเล็กๆริมถนนอู่ทอง ฝั่งตรงข้ามกับสำนักงานประปาเทศบาลพระนครศรีอยุธยา ร้านตกแต่งเหมือนบ้านอันอบอุ่น รายล้อมด้วยต้นไม้ และดอกไม้ ทั้งภายนอกและในร้าน
บรรยากาศภายในร้านเป็นการผสมผสานความคลาสสิคของผนังอิฐมอญ และความเรียบง่ายสไตล์มินิมอล รอบๆร้านรายล้อมไปด้วยขนมไทยโบราณ ในแพคเกจแบบทันสมัย และเรื่องราวต่างๆของขนมไทย รวมถึงที่มาของชื่อร้าน ที่เป็นคำโบราณที่ใช้เรียกขนมว่า ข้าวหนม
ถึงเวลาสั่งเมนูต่างๆมาลองชิม ถ้าเป็นขนม ที่นี่จะให้เราเดินไปหยิบ แล้วมาเขียนใส่กระดาษเองนะค่ะ ส่วนเครื่องดื่มก็สั่งที่เคาน์เตอร์ได้เลย
เรื่องของรสชาติ เท่าที่พวกเราลองมา 4-5 อย่าง จัดได้ว่าหอมอร่อย กลมกล่อมมาก ไม่หวานเกินไป ส่วนทีเด็ดของเครื่องดื่ม ต้องเมนูชาเลย เป็นความหอมแบบธรรมชาติ และเข้มข้นสุดๆ แต่ถ้าใครชอบกาแฟ ที่นี่ก็ชงได้อร่อยไม่แพ้แบรนด์อินเตอร์เลยคะ
และหากใครติดใจในความอร่อย ก็อย่าลืมซื้อฝากคนที่บ้านกันนะ :)
วันเวลาเปิดปิด: เปิดทุกวัน จันทร์-ศุกร์ 8:00-19:00 น. และเสาร์-อาทิตย์ 9:00-19:00 น.
สอบถามรายละเอียด: โทร. 097-921-9465
Facebook: https://www.facebook.com/Baan-kao-nhom-บ้านข้าวหนม-631602260209557
Google Map: https://goo.gl/maps/4G7QngU4fTr
หลังจากเสียค่าเข้าคนละ 10 บาทแล้ว เราก็เข้าไปดื่มด่ำ ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมโบราณนี้กันอย่างพินิจ และทึ่งกับความสามารถของบรรพบุรุษของเรา ในการร้อยเรียงอิฐแต่และก้อน จนเป็นวัดที่สวยงาม
วิวแต่แต่ด้านจะมีความสวยงามที่แตกต่างกัน ส่วนตัวที่เราชอบมากคือ วิวริมแม่น้ำ ที่ฝั่งตรงข้ามเป็นเรือนไทย ให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศโบราณ เหมือนหยุดเวลาเลยทีเดียว
ที่นี่เป็นอีกที่ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแวะเวียนมาไม่ขาดสาย มีหลากหลายมุมให้ถ่ายรูปกันได้ ไม่เบื่อเลย
Google Map: https://goo.gl/maps/2x2krqkWiZw
เปลี่ยนบรรยากาศจากวัดไทย มาเป็นวัดคริสต์อย่าง วัดนักบุญยอแซฟ เป็นวัดที่สำคัญวัดหนึ่งที่สืบเนื่องได้ถึงการหยั่งรากฐานของคริสตศาสนาที่เริ่มเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยตั้งแต่รัชกาล สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งในระยะเวลานั้นได้เริ่มมีการสร้างโบสถ์ สร้างโรงเรียนสำหรับสอนคำสอน ตั้งบ้านเณรเพื่อสอนคริสตศาสนาแก่คนที่ต้องการบวชเป็นพระ ต่อมาในภายหลังวัดและโรงเรียนได้ถูกพม่าเผาทำลายในคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 แต่ก็มีการสร้างวัดหลังใหม่ขึ้นมาทดแทน เพื่อเป็นศูนย์รวมจิต ใจของคริสตชนต่อมา
น่าเสียดายที่ไม่ได้เข้าไปเก็บภาพด้านใน ที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการเปิดปิดเป็นเวลาตามตารางการทำมิสซาประจำวัน จันทร์-ศุกร์ 18:30 น. เสาร์ 19:00 น. และอาทิตย์ 9:00 น.
ทั้งนี้เหล่าคริสต์ศาสนิกชนก็ได้มาสักการะ พระรูปของนักบุญยอแซฟกันไม่ขาดสาย
บริเวณโดยรอบวัดมีความร่มรื่นเป็นอย่างมาก เราเลยมานั่งรับลม พักผ่อนใจสักเล็กน้อย
สอบถามรายละเอียด: โทร. 035-701-291, 035-701-526 และ 085-903-7289
Website: http://www.jsyutya.com
Google Map: https://goo.gl/maps/57EAbw4VW8B2
เราก็แวะมาเอาฤกษ์เอาชัยก่อนกลับกันที่ วัดพุทไธศววรย์ ซึ่งเป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก สร้างขึ้นในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ทรงสร้างขึ้นในบริเวณที่ซึ่งเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับเมื่อทรงอพยพมาตั้งอยู่ก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เพื่อเป็นพระราชอนุสรณ์
ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ ปรางค์ประธาน องค์ใหญ่ศิลปะแบบขอม ตั้งอยู่กึ่งกลางอาณาเขตพุทธาวาสบนฐานไพที ซึ่งมีลักษณะย่อเหลี่ยมมีบันไดขึ้น 2 ทาง คือ ทางทิศตะวันออก และทางทิศตะวันตก ส่วนทิศเหนือทิศใต้มีมณฑปสองหลังภายในพระมณฑปมีพระประธาน พระตำหนักสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ประจำอยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา
และที่ขาดไม่ได้คือการสักการะพระบรมรูปพระมหากษัตริย์ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ไทยซึ่งอยู่บริเวณท่าน้ำของวัดได้แก่ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
Google Map: https://goo.gl/maps/bUiHgppHB9R2
จากที่เราตระเวณรอบอยุธยามาทั้งวัน สิ่งที่เห็นทั่วเมือง มากกว่า 7-eleven ก็คือ ร้านชาพะยอม จึงคิดว่าน่าจะเป็นของเด็ดอีกอย่างของจังหวัดนี้ เราจึงจอดชิมกันสักหน่อย และก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โดยเฉพาะชาไทยโบราณ ที่รสชาติเข้มข้นกลมกล่อมอย่างเหลือเชื่อ ลองมาชิมกันสักแก้วนะคะ
ระหว่างทางกลับสู่กรุงเทพฯ ก็จะมีทิวทัศน์ทุ่งนาให้ชมกันเป็นช่วงๆ ยิ่งพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว มีความสวยงามเป็นอย่างมาก และชมได้ยากสำหรับคนในเมืองหลวงอย่างเราๆ จึงต้องขอแวะเก็บภาพกันทิ้งท้ายสักหน่อย
แล้วพบกันกับ Gotography ตอนต่อไปกันนะคะ :)