แอพฯ นมพาสเจอร์ไรซ์

หนูน้อยคนนี้อายุ 1 วัน เขาคลอดก่อนกำหนดที่โรงพยาบาลคิว เอ็ดเวิร์ดที่ 8 เมืองเดอร์บานในแอฟริกาใต้ โดยเด็กอยู่ในครรภ์แม่แค่ 28 สัปดาห์ นางพยาบาลเป็นคนให้นมเขาด้วยนมแม่ที่ได้รับการบริจาคมา เธอจะได้รับนมที่มีผู้บริจาคไปจนกว่าแม่ของตัวเองจะแข็งแรงมากพอจะมาให้นมได้ด้วยตัวเอง ผู้สนับสนุนการเลี้ยงเด็กด้วยนมแม่บอกว่า นมแม่อย่างเดียวนั้นดีที่สุด อย่างน้อยๆก็สำหรับชีวิตในช่วง 6 เดือนแรกของเด็ก
นางพยาบาลบอกว่าเด็กคนนี้มีน้ำหนักตัวแค่ 980 กรัมเท่านั้น การคลอดก่อนกำหนด หมายความว่าอวัยวะของเด็ก ยังไม่พัฒนาเต็มที่ ลำไส้ของเด็กอาจจะยังรับนมผงไม่ได้ และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือนมผงอาจจะมีการตระเตรียมที่ไม่เหมาะสม ที่นี่ก็เลยให้นมแม่แทน เพราะนมแม่สามารถต่อสู้กับอาการติดเชื้อที่เด็กอาจจะได้รับได้
แต่สิ่งที่สำคัญก็คือไม่ว่าจะนมอะไรที่นำมาให้เด็กกิน จะต้องผ่านการพาสเจอร์ไรซ์เสียก่อน และนั่นก็ทำให้ต้องมีเรื่องเทคโนโลยีมาช่วย ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ รับนมแม่ที่ได้รับบริจาคมา จากธนาคารนมที่มีการพาสเจอร์ไรซ์นม ด้วยการใช้แอพฯโทรศัพท์มือถือ
เจ้าหน้าที่ธนาคารนมของชุมชนอิเธมบา เลธู บอกว่า ระบบนี้ทำได้โดยการให้ความร้อนกับนม และแอพฯโทรศัพท์มือถือ จะทำหน้าที่ติดตามดูว่าอุณหภูมิของนมควรอยู่ที่เท่าใด และเมื่อไหร่ที่นมต้องถูกทำให้เย็น และเราก็ยังสามารถอัพโหลดข้อมูลลงไปยังฐานข้อมูลได้ด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ได้นมแช่แข็งที่ได้รับการบริจาคมา ก็จะทำให้ละลาย จากนั้นก็จะนำไปผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ด้วยระบบ Foneastra ก่อนจะนำมันกลับไปแช่แข็งอีกครั้ง จนกว่าจะต้องการใช้
นอกจากเด็กที่คลอดก่อนกำหนด เด็กที่มีน้ำหนักน้อยกว่าปกติ เด็กที่่เสี่ยงจะติดเชื้อเอชไอวี และเด็กกำพร้า ก็จะได้รับประโยชน์จากระบบนี้ด้วย ดังนั้นระบบการฆ่าเชื้อแบบนี้จึงมีความสำคัญมากกับเด็กน้อยจำนวนมาก
แอพฯ Foneastra ได้รับการพัฒนาโดย Programme for Appropriate Technology in Healthcare ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัยวอชิงตัน และมหาวิทยาลัยควาซูลู นาทาล เมื่อปี 2555 มันเป็นระบบการฆ่าเชื้อนมแม่ที่เรียบง่ายและถูกระบบแรก มันมีราคาราว 700 ดอล ล่าร์ หรือราว 4 เปอร์เซ็นต์ของระบบการฆ่าเชื้อที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ปัจจุบัน ทางธนาคารนมแม่ สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และเอ็นจีโอ ทางด้านการศึกษา ต่างก็เข้ามารับผิดชอบด้านการขาย การกระจาย และการฝึกอบรมการใช้ระบบนี้