svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ไลฟ์สไตล์

น.ศ.สาวแจ้งความ โดนรับน้องโหด น้ำตาเทียนหยดใส่แขนพอง

30 กันยายน 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

วันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกของสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของผู้ได้รับบาดเจ็บจากน้ำตาเทียนหยดใส่จนเป็นแผลพุพองจากเพจเฟซบุ๊กของชายคนหนึ่ง (Aut Tra Pon) โดยอ้างว่าเป็นการรับน้องของมหาวิทยาลัยชื่อดังที่เกินกว่าเหตุว่า น้องผมเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา สาขาวิชาเทคโนโลยีการพิมพ์ แล้วโดนรุ่นพี่รับน้องแบบป่าเถื่อนมาก แล้วพอไปสอบถามอาจารย์กับได้คำตอบที่ดีมากว่า มันเป็นการรับน้องของรุ่นพี่กับรุ่นน้อง ที่ทำต่อๆกันมา แล้วเค้าก็บอกว่าได้เรียก รุ่นพี่มาตักเตือนแล้ว ถ้าเป็นลูกเป็นหลาน คุณบ้างละ คุณคงไม่อยู่เฉยๆ แน่นอน ผมกับครอบครัวคงไม่ ปล่อยให้เรื่องนี้ จบลงแบบง่ายๆ แน่นอนผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด มันจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์นี้กับใครอีก รบกวนขอความเห็นใจช่วยกันแชร์ทีนะคับเหตุการณ์แบบนี้จะได้ไม่เกิดขึ้นกับน้องคนอื่นๆ อีก

"ผมไม่อยากให้เรื่องนี้มันเงียบหายไปจากพี่ผมไปสอบถามคุณพ่อ คุณแม่ของเด็กบางคนเค้าก็กลัวไม่กล้าไปแจ้งความเพราะกลัวลูกจะถูกรุ่นพี่ทำร้าย และบางคนก็ไม่มีเวลาพาลูกไปแจ้งความ เพราะความจน งานก็หยุดไม่ได้ จะนั่งรถไปแต่ละทีค่ารถก็หลายร้อยบาท มันคงจะดูเป็นเงินไม่เยอะสำหรับคนรวย แต่มันเยอะมากนะคับสำหรับคน จนๆ กับการที่ต้องมานั่งลางานแล้วหาเงินค่า รถไปแจ้งความกับการกระทำสิ้นคิดของพวกคุณ" เจ้าของเพจดังกล่าวระบุ
ภายหลังภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้ผู้ที่ทราบเรื่องหรือพบเห็นต่างเข้ามาโพสต์วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม เพราะพิธีการรับน้องที่ไม่ห่วงถึงความปลอดภัยทางร่างกายของนักศึกษา อย่างไรก็ตามมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก เจ้าของเรื่อง (Aut Tra Pon) ได้โพสรูปจากการแคปหน้าจอของ เฟซบุ๊กชายอีกคนซึ่งอ้างว่า เป็นรุ่นพี่ของนักศึกษาคณะดังกล่าว ที่ใช้ชื่อว่า "เด็กน้อย 'ทินเนอร์"โพสต์ข้อความทางหน้าเพจของตัวเองว่า "อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ออกไป!!ปัญหามันเยอะมากก็ไป ออกไป" และยังมีภาพเหตุการณ์ที่สน.สามเสน ว่า"มันไม่ใช่น้องพี่คนเดียวนะที่โดน น้องๆ คนอื่น ๆ เค้าก็โดนไม่เห็นมีใครมีปัญหา" ยิ่งสร้างกระแสความไม่พอใจ ให้ผู้ปกครองหลายราย และมีการเรียกร้องให้สถาบันดังกล่าว ออกมารับผิดชอบต่อการกระทำ เนื่องจากสถาบันการศึกษาเคยรณรงค์ ป้องกันการรับน้องในทางที่เหมาะสม แต่กลับมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเสียเอง
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องดังกล่าวจาก พ.ต.อ.มนต์ชัย ศรีประเสริฐ ผกก.สน.สามเสน ก็ได้รับคำตอบว่า ทาง น.ส.เอ นามสมมติ(น.ส.จิตสุภา อิ่มที่สุด อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/101 หมู่ที่ 10 ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี) ผู้เสียหายได้เดินทางเข้ามาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับ ร.ต.ท.ประสาน คำเหลือ พนักงานสอบสวน สน.สามเสน ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านแล้ว โดยระบุว่า เหตุเกิดภายในสถาบัน เมื่อช่วงเวลา 18.00 น.วันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สามเสน ให้ประสานกับทางสถาบันเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่า ในวันเกิดเหตุมีการจัดกิจกรรมอย่างไร แล้วใครเป็นผู้ก่อเหตุหยดน้ำตาเทียนใส่ผู้เสียหายจนได้รับบบาดเจ็บ ขณะเดียวกันก็สั่งให้ฝ่ายสอบสวนทำการส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ รพ.วชิรพยาบาล จากนั้นก็จะรอผลการตรวจร่างกายจากทางแพทย์อีกครั้งว่า ได้รับบาดเจ็บอย่างไรบ้าง ก่อนจะดำเนินการแจ้งข้อหากับทางตัวผู้กระทำผิดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงบ่ายทางผู้เสียหายได้เดินทางเข้าให้ข้อมูลในเบื้องต้นกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สามเสน ก่อนเดินทางกลับไป โดยผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจาก น.ส.เอ ก็ได้รับคำตอบว่า"ไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลตอนนี้ เนื่องจากทางสถาบันโทรมาเรียกให้เข้าไปพูดคุย" ก่อนจะวางสายไป
ขณะเดียวกัน ในเว็บไซต์ www.Sunandhanews.com ซึ่งเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ออนไลน์ของสาขาวิชาวารสารสนเทศ กลุ่มสาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ได้ชี้แจงเกี่ยวกับข่าวดังกล่าวที่เกิดขึ้นในข่าว "น้ำตาเทียนบายศรีฯ เป็นพิษ รุมหยดใส่แขนน้องใหม่ถึงเจ็บ ภาคทัณฑ์รุ่นพี่/ขอโทษผู้ปกครอง" โดยมีข้อความตอนหนึ่งระบุว่า
น.ส. เอ นักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรุ่นพี่หยดน้ำตาเทียนใส่แขน เปิดเผยผู้สื่อข่าวสุนันทานิวส์ ว่า เป็นงานบายศรีสู่ขวัญให้นักศึกษาปี 1 ซึ่งรุ่นพี่ไม่ได้บอกว่าจะรับน้องอย่างไร นึกว่าเป็นพิธีบายศรีสู่ขวัญธรรมดา คือผูกข้อมือ เมื่อถึงเวลาเข้าร่วมพิธี รุ่นพี่ไม่ได้บอกว่าจะให้รุ่นน้องทำอะไรบ้าง แต่เห็นเพื่อน ๆ เดินร้องไห้ออกมา ก็คิดในใจแล้วว่าต้องเจออะไรที่ไม่ดีแน่ ๆ พอถึงเวลาที่จะต้องเข้าพิธี จึงรู้ว่ามันคืออะไร น.ส.เอ กล่าวต่อไปว่า รุ่นพี่บอกเหตุที่ทำ เป็นประเพณีสืบต่อกันมา ซึ่งตอนนี้แผลเริ่มหายแล้ว และได้เข้าแจ้งความที่ สน. สามเสน แล้ว
ด้านแหล่งข่าวนักศึกษาสาขาวิชาเทคโนโลยีการพิมพ์ ปี 3 ขอความเป็นธรรมผ่าน สุนันทานิวส์ ว่า พิธีที่มีน้ำตาเทียนหยดใส่แขนนั้น ไม่ใช่การรับน้องแต่อย่างใด เป็นพิธีบายศรีสู่ขวัญที่สืบต่อกันมาหลายรุ่นแล้ว ตนยอมรับว่ามีการหยดน้ำเทียนใส่แขนรุ่นน้องจริง แต่มีรุ่นพี่หลายคน ที่ใช้น้ำตาเทียนหยดใส่แขนรุ่นน้องเพียงคนละ 1-2 หยด รวม ๆ กันหลายคน เลยค่อนข้างเยอะ การร่วมพิธี พวกรุ่นพี่ไม่ได้บังคับ รุ่นน้องยินยอมหมดทุกคนแหล่งข่าวนักศึกษาผู้นี้กล่าวด้วยว่า สมัยที่ตนอยู่ปี 1 ก็โดนแบบเดียวกันหมดทุกคน
ส่วนแหล่งข่าวนักศึกษาปี 1 ที่เป็นเพื่อน น.ส. เอ เล่าว่า หลังพิธีบายศรีฯ ได้มีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้เพื่อน ๆ ที่เป็นแผล แต่ผิวหนังบางคนไม่เหมือนกัน เลยเกิดเหตุการณ์อย่างที่เห็น ตอนนี้กำลังรอข้อตกลงกับผู้ปกครองของเพื่อนที่บาดเจ็บว่าจะเอาอย่างไร เขาเป็นหนักอยู่คนเดียว ดูเหมือนผู้ปกครองของเขาจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ขณะที่ รศ.ดร. ปรุงศักดิ์ อัตพุฒ คณบดี คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ซึ่งเปิดสอนหลักสูตรสาขาวิชาเทคโนโลยีการพิมพ์ ที่นักศึกษารุ่นพี่มีพิธีบายศรีสู่ขวัญน้องใหม่ เปิดเผยกับทาง"สุนันทานิวส์" ถึงเหตุที่เกิดขึ้นนี้ว่า คณะฯ ตระหนักในกฎระเบียบค่อนข้างมาก จึงคิดว่านักศึกษาที่ก่อเหตุอาจไม่ได้คิดว่าจะเกิดเรื่องรุนแรงเกินเลย ขณะที่มหาวิทยาลัยฯ พยายามให้นักศึกษาเข้าใจระบบการรับน้องแบบสากล เช่น จัดกิจกรรมให้ความรู้ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง เป็นกิจกรรมที่ใช้ความคิดร่วมกัน ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น อาจอยู่นอกเหนือเวลาที่กำหนดให้ทำกิจกรรมซึ่งไร้คนควบคุม จึงจะมีการสร้างเกี่ยวกับการรับน้องขึ้นใหม่
ส่วนกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยฯ รศ. ดร.ปรุง อัตพุฒ เปิดเผยว่า มีตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน พักการเรียน จนถึงให้พ้นจากสภาพนักศึกษา ขณะนี้สื่อออนไลน์ส่วนใหญ่ได้นำข่าวสารไปเผยแพร่ด้านเดียว ทำให้เกิดการเข้าใจผิด เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การรับน้อง เป็นพิธีบายศรีสู่ขวัญ ขอยืนยันว่าพิธีนี้ ไม่มีการทำกิจกรรมใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความรุนแรง นอกจากการผูกข้อมือกันตามปกติ ทางคณะฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อรอขยายผลต่อไปภายในเจ็ดวัน
กรณีดังกล่าว มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ออกแถลงการณ์ชี้แจงผลการสอบสวนพบรุ่นพี่จำนวนหนึ่งกระทำผิดจริงด้วยความคึกคะนอง และดำเนินการลงโทษทางวินัยนักศึกษาโดยการภาคทัณฑ์ตามระเบียบสภามหาวิทยาลัยฯ ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ. 2548 รวมทั้งขอโทษคู่กรณีอย่างเป็นทางการ โดยที่คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมจะกวดขันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก ตอนท้ายของแถลงการณ์ระบุว่า มหาวิทยาลัยฯ เสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขออภัยต่อผู้ปกครองและนักศึกษาที่ถูกกระทำ และจะดำเนินการทุกวิถีทางให้เรื่องยุติและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยเร็วที่สุด

logoline