กทม. เตือน ปชช. รับมือฝนถล่มกรุงถึงสิ้นเดือน เหตุร่องมรสุม กำลังแรง พาดผ่าน

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. นายสัญญา ชีนิมิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงสถานการณ์ฝนในพื้นที่กรุงเทพฯเย็นวานนี้(27 ส.ค.) ว่า ทำให้มีฝนตกหนักกระจายในหลายพื้นที่ เช่น ที่เขตจตุจักร ดินแดง หลักสี่ ดอนเมือง ปริมาณน้ำฝนสูงสุด วัดได้ประมาณ 59 มิลลิเมตร ในหลายพื้นที่ อาทิ ปากซอยพหลโยธิน 62 หน้าตลาดพงษ์เพชร เขตหลักสี่ ซอยชินเขต ถนนงามวงศ์วาน ถนนแจ้งวัฒนะซอย 13 ถึงคลองประปา เกิดน้ำท่วมขังสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร ซึ่งกทม.ได้เร่งทำการระบายน้ำอย่างต่อเนื่องจนแห้งสนิท
นายสัญญา กล่าวต่อว่า โดยสาเหตุที่เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกในช่วง 15 นาทีแรกมีความเข้มสูง เมื่อคิดออกมาเป็นค่าเฉลี่ยต่อชั่วโมงพบว่าจุดที่เกิดปัญหามีปริมาณฝนในช่วงแรกเกินกว่า 100 มิลลิเมตร ทำให้น้ำไม่สามารถระบายได้ทันที แต่การเร่งสูบน้ำในพื้นที่ต่างๆ และสามารถเร่งระบายน้ำได้ในเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ในถนนแจ้งวัฒนะที่เกิดน้ำท่วมขังสูง จนส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนักนั้น เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำมาก จึงได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำบนถนนแจ้งวัฒนะ และภายในศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะเพื่อช่วยเร่งการระบายน้ำโดยเร็วที่สุด
นายสัญญา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ช่วงวันที่ 28-30 ส.ค. พื้นที่กรุงเทพฯจะยังคงมีร่องมรสุมกําลังแรงพาดผ่าน ส่งผลให้มีฝนตกหนาแน่น ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงบ่ายถึงเย็น ซึ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง อาทิ ถนนโลคัลโร้ด ถนนเพชรเกษม ที่อาจมีสาธารณูปโภคต่างๆปิดทางน้ำไหล ทำได้รับผลกระทบเกิดน้ำท่วมขังได้ 
แต่ กทม.ได้เตรียมพร้อมในการระบายน้ำอย่างเต็มที่ ซึ่งหากปริมาณฝนที่ตกไม่เกิน 60 มิลลิเมตร จะสามารถระบายน้ำท่วมขังได้ในระยะเวลา1-2 ชั่วโมงแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมา กทม.ได้ พร่องน้ำในคลองเปรมประชากร คลองลาดพร้าว คลองบางเขน คลองบางซื่อ เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้มากที่สุดไว้แล้ว
นายสัญญา กล่าวด้วยว่า ส่วนปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนนี้มีค่าอยู่ที่ 550 มิลลิเมตร เมื่อเทียบปริมาณฝนในปีที่ผ่านมาที่มีกว่า 1,000 มิลลิเมตร จึงถือว่าต่ำกว่าเกือบครึ่ง ขณะที่ปริมาณน้ำเหนือก็ไม่ได้สูงจนน่าตกใจ อย่างไรก็ตาม กทม.จะยังต้องติดตามสถานการณ์สภาพอากาศว่าจะมีพายุเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯเพิ่มเติมด้วยหรือไม่
"ตอนนี้ฝนที่ตกเป็นอิทธิพลของสมมรสุมที่พาดผ่านเข้ามาตามฤดูกาลปกติ ซึ่งกทม.ยังสามารถรับได้ แต่ที่ประชาชน หรือโลกสังคมออนไลน์ออกมาบ่น หรือต่อว่านั้น เป็นเพราะฝนตกในช่วงเย็นที่ประชาชนใช้การจราจรคับคั่ง จึงทำให้เกิดความรำคาญ หรือโมโหได้ง่าย จึงอยากแนะนำหากฝนตกในช่วงเย็นขอให้หยุดอยู่ที่ทำงาน 1-2 ชั่วโมง รอฝนลดลง น่าจะช่วยให้บรรเทาวิกฤติจราจรบนท้องถนนได้พอสมควร" นายสัญญา กล่าว