ทัพเรือสหรัฐสั่งระงับปฏิบัติการทั่วโลก หลังเกิดเหตุชนบ่อย
ทัพเรือสหรัฐ สั่ง กองเรือของตนที่ประจำการทั่วโลกระงับปฏิบัติการทั้งหมดชั่วคราว หลังเกิดเหตุชนเรือเดินสมุทรบ่อย
คำสั่งดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่เมื่อวันจันทร์ (21 ส.ค.) เรือพิฆาตยูเอสเอส จอห์น แม็คเคน ชนกับเรือบรรทุกน้ำมันอัลนิก เอ็มซี ซึ่งติดธงชาติไลบีเรีย ที่บริเวณนอกชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศสิงคโปร์ เป็นเหตุให้มีทหารเรือสูญหายถึง 10 ราย
เหตุดังกล่าวนับเป็นอุบัติเหตุครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นกับเรือรบสหรัฐฯในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา และยังนับเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่เกิดขึ้นในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้กองทัพเรือต้องสั่งดำเนินการสืบสวนหาสาเหตุภายในกองเรือแปซิฟิกทั้งหมด
พลเรือเอกจอห์น ริชาร์ดสัน หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการกองทัพเรือระบุว่า แนวโน้มของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้สหรัฐต้องลงมือจัดการอย่างเด็ดขาดยิ่งกว่าเดิม จึงตัดสินใจสั่งการให้กองเรือทั่วโลกระงับปฏิบัติการทั้งหมด
เมื่อเดือนส.ค.ปีที่แล้ว เรือดำน้ำลำหนึ่งของกองทัพเรือสหรัฐชนเข้ากับเรือสนับสนุนปฏิบัติการนอกชายฝั่ง และในเดือนพ.ค.ของปีนี้ เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถี ชนกับเรือประมงเกาหลีใต้ ตามมาด้วยเหตุเรือพิฆาตสองลำคือเรือยูเอสเอส ฟิตซ์เจอรัลด์ ชนกับเรือบรรทุกสินค้าของญี่ปุ่นที่น่านน้ำใกล้เมืองท่าโยโกสึกะ เมื่อเดือนมิ.ย. และล่าสุด เรือยูเอสเอส จอห์น แม็คเคน ชนกับเรือบรรทุกน้ำมันขณะเตรียมเข้าเทียบท่าที่สิงคโปร์
ขณะที่การค้นหาทหารเรือที่สูญหายจากกรณีอุบัติเหตุของเรือพิฆาตยูเอสเอส จอห์น แม็คเคนยังคงดำเนินต่อไป ภายใต้ความร่วมมือจากหน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่งของมาเลเซีย บริเวณรัฐยะโฮร์และรัฐปะหัง ส่วนเรือบรรทุกน้ำมันคู่กรณี ได้รับความเสียหายบริเวณถังเก็บน้ำมันใกล้กับด้านหน้าของเรือ แต่ไม่มีเหตุน้ำมันรั่วไหลและลูกเรือไม่ได้รับอันตราย.