ปธน.ทรัมป์ แถลงที่อาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ในนครนิวยอร์กเมื่อวานชี้แจงต่อเสียงวิจารณ์ว่าเขาใช้เวลาเกือบสองวันกว่าจะแสดงความเห็นตำหนิกลุ่มเชิดชูคนผิวขาวเป็นใหญ่กรณีผู้สนับสนุนขับรถพุ่งชนผู้ชุมนุมต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติในเมืองชาร์ลอตต์สวิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนและผู้บาดเจ็บ 19 คนเมื่อวันเสาร์ โดยบอกว่าเขาไม่อาจแสดงความเห็นเร็วกว่านั้นเพราะยังไม่รู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด
ล่าสุดทรัมป์เรียกคนขับรถเป็นฆาตรกร แต่ก็กล่าวปกป้องกลุ่มขวาจัดที่นัดเดินขบวนในชาร์ลอตต์สวิลล์เพื่อคัดค้านการรื้อถอนรูปปั้นนายพลโรเบิร์ต อี ลี ทหารของกลุ่มสมาพันธรัฐอเมริกา ซึ่งสนับสนุนการค้าทาสในสมัยสงครามกลางเมือง และบอกด้วยว่าการรื้อทำลายเป็นการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของประเทศ พร้อมกับตำหนิว่าผู้ชุมนุมฝ่ายซ้ายที่ต่อต้านกลุ่มดังกล่าว ก็ใช้ความรุนแรงเหมือนกันและเป็นคนสร้างปัญหา เขายังวิจารณ์สื่อด้วยว่าไม่รายงานเรื่องผู้ชุมนุมอีกฝ่าย และบอกว่าเขาขอตำหนิผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่าย
ทรัมป์ยังนำแผ่นกระดาษที่มีข้อความเดียวกับการแถลงในวันเสาร์ออกมาอ่านซ้ำอีกครั้ง ซึ่งเป็นคำแถลงที่ประณามความเกลียดชัง ความไร้เหตุผล และความรุนแรงทุกรูปแบบของหลายฝั่ง แต่ไม่ระบุถึงกลุ่มผิวขาวสุดโต่ง ขณะที่ในการแถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ ทรัมป์อ่านตามคำแถลงที่เตรียมไว้ว่า การเหยียดเชื้อชาติเป็นปิศาจ และกลุ่มคลูคลักซ์แคลน นีโอนาซี และกลุ่มผิวขาวสุดโต่ง เป็นพวกอาชญากรและอันธพาล
แต่ถ้อยแถลงของทรัมป์เมื่อวานที่กล่าวโทษทั้งสองฝ่าย ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อีกว่า การตำหนิกลุ่มเชิดชูผิวขาวเป็นใหญ่เพียงครึ่งเดียวอาจทำให้กลุ่มนี้มองว่าเป็นชัยชนะ จึงไม่อาจปล่อยให้กระแสเหยียดเชื้อชาติคืนชีพได้อีก
ขณะเดียวกันความรุนแรงเรื่องการเหยียดเชื้อชาติบานปลายในหลายเมือง โดยกลุ่มต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติทำลายรูปปั้นนายพลโรเบิร์ต อี ลี ในบางเมือง และมีผู้ประท้วงเดินขบวนแสดงความโกรธแค้นต่อประธานาธิบดีทรัมป์ในหลายเมือง รวมถึงที่หน้าอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ในนครนิวยอร์ก