คำสั่งของศาลฎีกาสหรัฐเมื่อวานกำหนดให้คำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อ 6 มี.ค.สามารถบังคับใช้ได้บางส่วนชั่วคราวจนกว่าผู้พิพากษาทั้ง 9 คนจะพิจารณาไต่สวนในเดือนต.ค.ว่าควรให้ยกเลิกคำสั่งทั้งหมดหรือบังคับใช้ต่อไปได้ หลังจากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์หลายแห่งสั่งระงับการบังคับใช้
ตามคำสั่งฉบับ 6 มี.ค.ทรัมป์กำหนดห้ามพลเมืองจาก 6 ชาติมุสลิม ได้แก่ อิหร่าน, ลิเบีย, โซมาเลีย, ซูดาน, ซีเรียและเยเมน เดินทางเข้าสหรัฐเป็นเวลา 90 วัน และห้ามผู้ลี้ภัยทั้งหมดเข้าประเทศเป็นเวลา 120 วัน ขณะที่คำสั่งศาลฎีกาจำกัดให้ห้ามเฉพาะบุคคล ซึ่งไม่มีความสัมพันธ์อย่างสุจริตกับบุคคลหรือองค์กรใดๆในสหรัฐ
ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงความยินดีกับการตัดสินใจของศาลฎีกาว่าเป็นชัยชนะสำหรับความมั่นคงของชาติ และกระทรวงต่างประเทศเตรียมบังคับใช้คำสั่งอย่างมืออาชีพ มีระบบ และเหมาะสมภายใน 72 ชม.
แต่มีเสียงวิจารณ์จากหลายฝ่ายว่า คำสั่งของศาลสร้างความสับสนยิ่งขึ้นจากการใช้คำว่า ความสัมพันธ์อย่างสุจริต ซึ่งจะเป็นประเด็นโต้เถียงเพราะไม่มีนิยามชัดเจนว่าหมายถึงอะไร และเป็นการสร้างภาระให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ซึ่งอาจทำให้เกิดความโกลาหลที่สนามบิน นอกจากนี้เครือข่ายที่ต่อสู้เพื่อคัดค้านคำสั่งห้ามมุสลิมเข้าสหรัฐมาตลอดหลายเดือนยืนยันจะเดินหน้าต่อสู้คดีต่อไป