สื่อรัสเซียเผย "ไทย"สนใจซื้อยุทโธปกรณ์ "รัสเซีย"ชุดใหญ่

    
               นายวิคเตอร์ คลาดอฟ หัวหน้าคณะผู้แทนร่วมของบริษัท รอสเทค และ ทรอสโซบอโรเน็กซ์พอร์ต ผู้ส่งออกอาวุธในสังกัดกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวทาสส์ว่า เขาไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้สำหรับความร่วมมือในสนามของยานยนต์หุ้มเกราะ เนื่องจากทางการไทยกำลังแสดงความสนใจมันอย่างมาก 
               นายคลาดอฟ ระบุด้วยว่า รัฐบาลไทยยังแสดงความสนใจในยุทโธปกรณ์อื่นๆ ของรัสเซีย โดยเฉพาะระบบป้องกันทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นเฮลิคอปเตอร์ "มิล เอ็มไอ-17" (Mil Mi-17), เครื่องบินขับไล่ "ยาโคเลฟ ยัก-130" (Yakovlev Yak-130), ซูคอย ซู-30 (Sukhoi Su-30) และเบอเรียฟ เบ-200 (Beriev Be-200)
               นอกจากนี้ ตัวแทนบริษัทรอสเทคเสริมว่า สถานการณ์กำลังเปลี่ยนไป แม้ยังอุปสรรคในเชิงจิตวิทยาในไทยอยู่บ้าง เพราะทหารบางส่วนผ่านการฝึกฝนในสถาบันสหรัฐ แต่ขณะนี้ไทยกำลังแสดงความสนใจในยุทโธปกรณ์ของรัสเซียอย่างมาก เพราะสินค้าของรัสเซียไม่ใช่แค่มีคุณภาพดีเท่ากับที่ผลิตโดยสหรัฐ แต่ยังถูกกว่าและเชื่อถือได้มากกว่าด้วย
               การเปิดเผยนี้มีขึ้นในช่วงที่รัสเซียใกล้ประสบความสำเร็จในการส่งมอบซูคอย ซูเปอร์เจ็ต เอสเอสเจ-100 (SSJ-100) ครบทั้ง 3 ลำแก่กระทรวงกลาโหมของไทย
               นายคลาดอฟระบุว่า จนถึงตอนนี้ มีการส่งมอบเครื่องบินแล้ว 2 ลำ ส่วนลำที่ 3 จะมีการส่งมอบตามสัญญา ขณะเดียวกันสายการบินของไทยบางรายก็แสดงความสนใจที่จะซื้อเครื่องบินซูเปอร์เจ็ตรุ่นนี้เช่นกัน โดยเรื่องนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับฝ่ายไทย 
               นอกจากนี้ สำนักข่าวทาสส์ยังอ้างแหล่งข่างวงในของหน่วยงานความร่วมมือทางเทคนิคทหารของรัฐบาลกลางรัสเซียว่า อาจมีการลงนามจัดหาเฮลิคอปเตอร์ มิล เอ็มไอ-17วี5 แก่ไทยอีกชุดในเร็วๆ นี้ โดยขณะนี้การเจรจาอยู่ในขั้นสุดท้ายแล้ว
               กองทัพไทย เคยจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ เอ็มไอ-17วี5 ของรัสเซียมาแล้ว ขณะที่รายงานข่าวบางสำนักระบุว่า รัฐบาลไทยแสดงความพึงพอใจต่อศักยภาพของเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวและตัวแทนของไทยแสดงความตั้งใจว่าจะซื้อเพิ่มเติม