องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน ชี้นโยบายด้านผู้อพยพของ "ทรัมป์" ไม่กระทบคนไทย
ยันเข้าสหรัฐอเมริกาง่ายๆด้วยโครงการ EB5 รับกรีนการ์ดนานถึง 20 ปี จากแผนนโยบายด้านผู้อพยพของผู้นำสหรัฐอเมริกา "ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์" เขาจะสร้างระบบควบคุมการอพยพย้ายถิ่นใหม่ และส่วนหนึ่งของแผนดังกล่าวคือ การเลือกผู้อพยพโดยดูจากโอกาสที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จในสหรัฐฯ, ความสามารถในการพึ่งพาตัวเองในด้านการเงินของพวกเขา ทำให้การได้รับวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ได้ง่ายเหมือนแต่ก่อน
นายบาสเตียน เทรลแคท หุ้นส่วนผู้จัดการบริษัท เอชแอลจี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ฮาร์วีย์ ลอว์ กรุ๊ป ผู้บุกเบิกการโยกย้ายถิ่นฐานเพื่อการลงทุนแห่งเอเชีย เผยว่า "นโยบายล่าสุดของ ประธานาธิบดี ดอนัลด์ ทรัมป์ ในเรื่องการห้ามบุคคลบางสัญชาติเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้สร้างความ ประหลาดใจแก่สังคมเป็นอย่างยิ่ง เนื่องด้วยนโยบายดังกล่าวไม่เคยมีการกล่าวถึงหรือมีการหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกับตัวแทนผู้ดูแล ด้านการโยกย้ายถิ่นฐานในประเทศสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด การประกาศออกมาบังคับใช้นโยบายดังกล่าวภายใต้คำสั่งพิเศษของ ประธานาธิบดีสหรัฐในครั้งนี้นั้น แสดงให้เห็นถึงความไม่สอดคล้องในเงื่อนไขตามกฎเกณฑ์ต่างๆเป็นอย่างยิ่ง ถือว่าเป็นเรื่องที่น่า เศร้าใจ
อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวนั้นมิได้มีการเล็งกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเจาะจงที่กลุ่มประเทศต่างๆในแถบทวีปเอเชียแต่อย่างใด แต่พวกคุณอาจจะสงสัย ว่านโยบายดังกล่าวจะมีการปรับเปลี่ยนหรือส่งผลกระทบกับชาวมุสลิมและกลุ่มชาวมุสลิมในแถบทวีปเอเชีย (ประเทศมาเลเซีย ประเทศอินโดนีเซีย และบางส่วนในประเทศฟิลิปปินส์) หรือไม่
นโยบายและระเบียบแบบแผนของประธานาธิบดี ดอนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างความน่ากังวลใจเป็นอย่างยิ่ง จากสิ่งที่มีความแน่นอน ก็กลายเป็นอะไรที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนทิศทางเป็นเช่นไรในภายภาคหน้า ผมเชื่อว่าการโยกย้ายฐิ่นฐานหรือ การเข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีความยากลำบากยิ่งขึ้นในอนาคต ลองคิดดูสิครับว่าการเผยแพร่หรือประชาสัมพันธ์รูปแบบไหนที่ ประเทศสหรัฐอเมริกาจะสามารถให้ได้ในโปรแกรม EB5 เมื่อผู้ถือบัตรกรีนการ์ดหรือผู้ถือวีซ่าที่ยังมีอายุใช้งานได้อาจไม่สามารถ กลับเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาหาก
ได้ออกนอกประเทศไป ณ ช่วงเวลานี้ หากผมจะสามารถให้คำแนะนำแก่ผู้ที่ตั้งใจที่จะ โยกย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศสหัฐอเมริกานั้น ผมคงจะแนะนำว่าท่านควรที่จะรีบสมัครโปรแกรม EB5 ณ เวลานี้ภายใต้ขอบข่าย ที่ยังมีความเอื้ออำนวยซึ่งอาจจะมีผลบังคับถึงเดือนเมษายนนี้
หากลองพิจารณาในมุมของทั่วโลก ประธานาธิบดี ดอนัลด์ ทรัมป์และทีมงานที่ปรึกษากำลังจะขีดเส้นที่ชัดเจนในการต่อต้าน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนในภาพรวม ใช่ครับ โซนเอเชียไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม นโยบายด้านคนต่างด้าวของประธานาธิบดี ดอนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลกระทบกับทางเลือกของนักลงทุนชาวจีนใน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นอย่างแน่นอน
ผมไม่เห็นว่าชาวจีนจะมีการเร่งรีบในการโยกย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เรื่องการเพิ่มขึ้นของชาวจีน คงต้องพักไว้ก่อน ด้วยทโอกาสในการประกอบธุรกิจและประโยชน์ที่จะได้รับในการได้บัตรกรีนการ์ดจะมีลดลงสำหรับชาวจีน ต้องอย่าลืมว่า ณ ตอนนี้ ชาวจีนสามารถยื่นขอวีซ่าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยระยะเวลาของวีซ่าถึง 10 ปี
สำหรับชาวเอเชียที่ไม่มีสัญชาติจีน ผมเห็นได้ถึงความต้องการในการโยกย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศแคนนาดาและประเทศออสเตรเลีย ที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องด้วยกระบวนการในการสมัครมีความง่ายและรวดเร็วมากกว่า รวมทั้งจำนวนเงินในการลงทุนก็ต่ำกว่าอย่างชัดเจน
บาสเตียน กล่าวอีกว่า "โครงการ EB5 เป็นผลประโยชน์ต่อคนไทยที่มองหาลู่ทางในการย้ายถิ่นฐานหรือมีโครงการส่งบุตรหลาน ไปศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกา โครงการ EB5 เป็นโครงการที่ให้สิทธิ Green Card กับผู้ลงทุนมาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี กล่าวคือ รัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกามอบสิทธิ์การถือครอง Green Card ให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติที่ลงทุนจำนวน 500,000 USD ในธุรกิจของประเทศสหรัฐอเมริกาและก่อให้เกิดการจ้างงานขั้นต่ำจำนวน 10 ตำแหน่งงาน Green Card ของประเทศสหรัฐอเมริกา ให้สิทธิ์ผู้ถือครองในการอยู่อาศัย ศึกษา และใช้ชีวิตบั้นปลายในประเทศสหรัฐอเมริกา และยังสามารถยื่นขอสัญชาติอเมริกันได้ หากมีคุณสมบัติตามที่ทางรัฐบาลกำหนด สำหรับผู้ปกครองที่ต้องการส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อยังประเทศสหรัฐอเมริกานั้น การลงทุนนี้จะช่วยลดภาระในเรื่องการยื่นขอวีซ่าสำหรับการศึกษา และบางมหาวิทยาลัยยังสนับสนุนในด้านค่าใช้จ่ายให้นักศึกษา เป็นจำนวนที่ต่างกัน ระหว่างนักศึกษาที่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา และนักศึกษาต่างชาติอีกด้วย
สำหรับรายชื่อโครงการ EB5 (เท็กซัส, โอไฮโอ และนิวยอร์ค) ที่ได้รับอนุมัติจากทางการ, ราคาเริ่มต้น และผลประโยชน์ ในขณะที่ปัจจุบันมีโครงการ EB5 กว่าร้อยโครงการในตลาด ฮาร์วีย์ ลอว์ กรุ๊ป ได้คัดเลือกเฉพาะโครงการที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด และเป็นโครงการที่มีความปลอดภัยในแง่ของความเหมาะสมและผลตอบแทนสูงสุด โดยมี 3 โครงการ ดังนี้
Fairfield Inn Suites & Hotel ตั้งอยู่ที่ใจกลางของมหาวิทยาลัยซินซินเนติ (The University of Cincinnati) อันเป็นโรงแรม ระดับคุณภาพสำหรับแขกของมหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลใกล้เคียง
การลงทุนในโครงการบำบัดน้ำเสียจากอุตสาหกรรมน้ำมันในเท็กซัส
โครงการ Lighthouse อาคารเพื่อการพาณิชย์ใน Staten Island นิวยอร์ค
ทั้งนี้ โครงการ EB5 อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยการเพิ่มเงินลงทุนจาก 500,000 ดอลล่าร์สหรัฐ เป็น 1.3 ล้าน ดอลล่าร์สหรัฐ โดยอยู่ในระหว่าง การพิจารณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
เกี่ยวกับ ฮาร์วีย์ ลอว์ กรุ๊ป ก่อตั้งในปี 1992 โดย ฌอง ฟรองซัว ฮาร์วีย์ โดยมีสำนักงานแห่งแรกอยู่ที่มอนทรีออล ประเทศแคนาดา โดยให้บริการทั่วทวีปเอเชีย อเมริกาใต้และตะวันออกกลาง เชี่ยวชาญด้านการโยกย้ายถิ่นฐาน และกฎหมายธุรกิจ บริษัทได้สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกในด้านของความเป็นเลิศของการเป็นตัวแทนทางกฎหมายแก่นักธุรกิจและบุคคล ฮาร์วีย์ ลอว์ กรุ๊ปมีสํานักงานกระจายอยู่ทั่วโลก ทั้งในฮ่องกง กรุงเทพ โฮจิมินห์ซิตี้ ฮานอย ดานัง ปักกิ่ง ย่างกุ้ง สิงคโปร์ มะนิลา มอนทรีออลและไมอามี่ พร้อมทั้งมีเครือข่ายระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ส่งผลให้ฮาวีย์ ลอว์ กรุ๊ปมีทีมงานที่ทํางานคลอบคลุมเป็นวงกว้าง และสามารถให้บริการลูกค้าทั่วโลกได้อย่างเหนือระดับ