"ทรัมป์" โวยศาลไม่ฟื้นคำสั่งแบนมุสลิม

ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาวิจารณ์ศาลกลางสหรัฐเป็นวันที่สอง กรณีทำให้คำสั่งของเขาที่ห้ามพลเมืองจาก 7 ชาติที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมเข้าสหรัฐต้องระงับการบังคับใช้ตั้งแต่คืนวันศุกร์ โดยเขาโพสในทวิตเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ระบุว่า "ไม่อยากเชื่อว่าผู้พิพากษาจะทำให้ประเทศตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ หากมีอะไรเกิดขึ้นต้องโทษผู้พิพากษาและระบบศาลยุติธรรม คนไหลทะลักเข้ามา แย่" ต่อมาอีกไม่กี่นาทีเขาโพสอีกข้อความว่า "ผมได้สั่งให้กระทรวงความมั่นคงภายในตรวจสอบคนเข้าประเทศด้วยความระมัดระวังอย่างมาก ศาลกลับทำให้การปฏิบัติงานยุ่งยากมาก"
ท่าทีของผู้นำสหรัฐมีขึ้นสืบเนื่องจากเมื่อเช้ามืดวันอาทิตย์ศาลอุทธรณ์กลางเขต 9ไม่รับคำอุทธรณ์ของกระทรวงยุติธรรมที่ขอให้รื้อฟื้นคำสั่งห้ามเข้าสหรัฐ ที่ถูกระงับการบังคับใช้ในทั่วประเทศเป็นการชั่วคราวตามคำสั่งคุ้มครองของผู้พิพากษาเจมส์โรบาร์ต แห่งศาลกลางสหรัฐในเมืองซีแอตเติลเมื่อค่ำวันศุกร์
กระทรวงยุติธรรมยื่นคำอุทธรณ์เมื่อหลังเที่ยงคืนเข้าสู่วันอาทิตย์เพื่อให้ระงับการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้พิพากษาโรบาร์ต โดยระบุว่า การตัดสินใจของโรบาร์ตเป็นอันตรายต่อประชาชน และเป็นการตั้งข้อสงสัยต่อการตัดสินใจของประธานาธิบดีเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ
ก่อนหน้านั้นทรัมป์ทวีตวิจารณ์ผู้พิพากษาโรบาร์ตเมื่อวันเสาร์ บอกว่า การตัดสินใจของคนที่เรียกว่าผู้พิพากษาเป็นเรื่องน่าขัน ทำให้เกิดเสียงวจารณ์จากพรรคเดโมแครตและอีกหลายฝ่ายว่าเป็นเรื่องอันตรายที่ประธานาธิบดีไม่เคารพระบบศาลยุติธรรม
รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ เดินสายให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีเมื่อวันอาทิตย์ปกป้องคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ลงนามเมื่อ 27 ม.ค.กำหนดให้ระงับการเข้าเมืองของพลเมืองจากอิหร่าน อิรัก ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรียและเยเมน นาน 90 วัน เพนซ์ กล่าวว่า การตัดสินใจของศาลเป็นเรื่องน่าหงุดหงิด รัฐบาลจะต่อสู้และจะเป็นฝ่ายชนะเพราะรัฐบาลดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีมีอำนาจกระทำได้
ขณะที่ชาวต่างชาติและผู้ขอลี้ภัยเร่งเดินทางเข้าสหรัฐเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ระหว่างที่คำสั่งห้ามเข้าประเทศยังคงถูกระงับไว้ โดยศาลอุทธรณ์กลางเขต 9 กำหนดให้ฝ่ายยื่นคัดค้านคำสั่งห้ามเข้าประเทศ และกระทรวงยุติธรรมยื่นคำชี้แจงภายในวันนี้และจะมีคำตัดสินว่าคำสั่งห้ามเข้าประเทศจะยังมีผลบังคับใช้ได้หรือไม่