เมื่อสักครูที่ผ่านมา "เดวิด คาเมรอน" นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ภายในเดือนตุลาคมนี้ หลังจากผลการนับคะแนนลงประชามติเรื่องสหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือไม่ นับครบทั้ง 382 หน่วยนับคะแนนปรากฏว่า ฝ่ายที่สนับสนุนให้ออก ชนะฝ่ายที่สนับสนุนให้เป็นสมาชิกต่อไปกว่าล้านกว่าคะแนน
โดยฝ่ายให้ออกจากอียูมีคะแนนทั้งหมด 17,410,742 คะแนน หรือ 51.9% ฝ่ายให้คงการเป็นสมาชิกอียูมี 16,141,241 คะแนน หรือ 48.1 % หรือชนะ 1,269,501 คะแนน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของอียูเตรียมประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมในเวลา 15.30 น.(ตามเวลาในไทย)และจะแถลงต่อสื่อมวลชนในเวลาประมาณ 17.00 น.(ตามเวลาไทย)
ขณะที่รัฐมนตรีกิจการยุโรปของ 28 ชาติสมาชิกอียูจะประชุมกันที่ลักเซมเบิร์กในเวลา 19.30 น.(ตามเวลาไทย) เพื่อกำหนดกรอบการเจรจาเรื่องสหราชอาณาจักรจะออกจากอียูสำหรับนำเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดอียู 28-29 มิถุนายนนี้
ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรเข้าเป็นสมาชิกอียูเมื่อครั้งที่ยังเป็นประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (อีอีซี) เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2516 และเคยจัดการลงประชามติเรื่องจะเป็นสมาชิกอีอีซีต่อไปหรือไม่เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2518 ครั้งนั้นเสียงสนับสนุนให้อยู่มีมากกว่าร้อยละ 67