svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

NationTv สัมภาษณ์สดจากสหรัฐฯ"ณัฐสินี กิจบุญชู" คนไทยหนึ่งเดียวในทีม LIGO ที่ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง

13 กุมภาพันธ์ 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

การค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง ที่นักวิทยาศาสตร์เฝ้ารอมานานแล้ว การค้นพบนี้มีความสำคัญอย่างไร และจะกระทบกับชีวิตของคนทั่วไปรึเปล่า มาพูดคุยกับ คุณณัฐสินี กิจบุญชู คนไทยหนึ่งเดียวในทีม LIGO ที่ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง


ผู้สื่อข่าว : คุณณัฐสินี ทำงานกับทีม LIGO นานขนาดไหนแล้ว?
คุณณัฐสินี : ทำที่หอสังเกตการณ์จริงๆแค่ 1 ปี แต่อยู่กับ LIGO มาปีครึ่งแล้ว
ผู้สื่อข่าว : ที่หอสังเกตการณ์ คุณณัฐสินี ทำหน้าที่อะไร?
คุณณัฐสินี : ทำหน้าที่เรียกว่า operation specialist คือหน้าที่หลักเลย คือ คนคุมเครื่องตรวจจับคลื่น ให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้

NationTv สัมภาษณ์สดจากสหรัฐฯ"ณัฐสินี กิจบุญชู" คนไทยหนึ่งเดียวในทีม LIGO ที่ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง


ผู้สื่อข่าว : บรรยากาศโดยรอบในขณะนั้นเป็นอย่างไร เมื่อพบว่าเราตรวจจับคลื่นความโน้มถ่วงได้
คุณณัฐสินี : ความจริงไม่เหมือนกับที่คนอื่นคิด เพราะตอนนั้นยังไม่ได้เข้าสู่การ Run เพื่อเก็บข้อมูลจริง แต่ใกล้จะสิ้นสุดแล้ว ระบบสัญญานเตือนยังไม่ได้ถูกลงโปรแกรมไว้ จึงไม่มีใครรู้เลย ดิฉันอยู่ประจำกับอีกคนหนึ่ง แต่คนที่รู้คนแรกเลยจริงๆ มี 2 คน คือเป็น Postdoc ที่ประเทศเยอรมัน จนกระทั่ง 2 คนดังกล่าวติดต่อมาจึงทราบ แต่ก็ยังไม่มีใครยืนยันได้ว่าเป็นสัญญาณของจริง เพราะเขาแค่ติดต่อมาว่าเครื่องยังปกติดีไหม มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นภายในหอสังเกตการณ์หรือไม่ ก็ไม่มี แต่ความตื่นเต้นจริงๆเกิดขึ้นในตอนเช้าที่นักวิทยาศาสตร์ตื่นกันแล้ว ได้แลกเปลี่ยนอีเมลล์ ได้คุยกัน ก็เห็นว่าสัญญาณใกล้เคียงกับที่ทำนายไว้เลยว่าจะเป็นอย่างไรจริงๆ
ผู้สื่อข่าว : ช่วงเวลาที่คุณณัฐสินีรู้ว่าเราตรวจจับคลื่นความโน้มถ่วงได้ ขณะนั้นเป็นอย่างไร
คุณณัฐสินี : ตอนแรกไม่ค่อยเชื่อ เพราะมันดีเกินกว่าจะเป็นของจริง มันสวยงามมาก แต่พอมั่นใจแล้วว่าเป็นของจริง ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มาเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ ไม่คิดว่าตัวเองจะอยู่ได้ถูกที่ถูกเวลา เพราะตัวเองก็เป็นแค่เด็กมัธยมไทยธรรมดา
ผู้สื่อข่าว : หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า คนทำงาน หรือคนที่ใช้ชีวิตปกติ คลื่นความโน้มถ่วงจะส่งผลกระทบอย่างไร หรือไม่
คุณณัฐสินี : คนที่ทำงานหาเช้ากินค่ำปกติไม่มีผล แต่สำหรับนักดาราศาสตร์มีผลมาก เพราะทุกวันนี้วงการดาราศาสตร์เหมือนคนมีตาแต่ไม่มีหู คือเรามีกล้องดูดาวทั่วโลก เครืองตรวจจับคลื่นเอ็กซเรย์ คลื่นอินฟราเรด ฯลฯ คลื่นเหล่านี้เรียกว่าคลื่น EM หรือคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า แต่สำหรับคลื่นความโน้มถ่วง เป็นระลอกของผืนผ้าใบอวกาศ จะมีข้อมูลที่คลื่น EM ไม่สามารถพามาได้ เช่ นการชนกันของหลุมดำ ซึ่งทางทฤษฎีแล้ว ไม่สามารถปล่อยคลื่น EM ออกมาได้ เพราะหลุมดำกลืนกินทุกอย่าง แต่คลื่นความโน้มถ่วงหลุดมาได้ เพราะเป็นพลังงานที่สูญเสียระหว่างที่หลุมดำ 2 หลุมกำลังชนกัน

NationTv สัมภาษณ์สดจากสหรัฐฯ"ณัฐสินี กิจบุญชู" คนไทยหนึ่งเดียวในทีม LIGO ที่ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง


ผู้สื่อข่าว : เมื่อพบคลื่นความโน้มถ่วงแล้ว เป้าหมายต่อไปของ LIGO คืออะไร
คุณณัฐสินี : จากนี้ในระยะเวลาอันใกล้จะเร่งพัฒนาเครื่องให้เข้าสู่ Sensitivity ที่สามารถฟังจักรวาลได้ไกลมากไปกว่านี้ และในระยะยาวจะเป็นหูให้กับนักดาราศาสตร์ของโลก คือ นักดาราศาสตร์มีกล้องดูดาว คือมีตาอยู่แล้ว แต่จากนี้จะได้ยินเสียงด้วย จากที่หูหนวกมานาน
ผู้สื่อข่าว : คุณณัฐสินีได้มีโอกาศเข้าไปอยู่ใน LIGO ได้อย่างไร
คุณณัฐสินี : มาต่อปริญญาตรีที่อเมริกา ประมาณช่วงเทอมสุดท้ายในปีสุดท้าย ได้มีโอกาสทำงานกับ อาจารย์ซึ่งขณะนี้มีตำแหน่งเป็นโฆษกของ LIGO รู้สึกว่าชอบ สนใจ ก่อนตัดสินใจศึกษาต่อปริญญาโท อยากหาประสบการณ์มากกว่านี้ จึงขอสมัครเข้ามาทำงานที่ LIGO

NationTv สัมภาษณ์สดจากสหรัฐฯ"ณัฐสินี กิจบุญชู" คนไทยหนึ่งเดียวในทีม LIGO ที่ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง


ผู้สื่อข่าว : คุณณัฐสินีคิดว่าโอกาสของคนไทยที่เข้าไปทำงานกับหน่วยงานใหญ่ๆ นักวิทยาศาสตร์ใหญ่ๆ เป็นเรื่องที่ยากหรือไม่
คุณณัฐสินี : ไม่ยากเลย จริงๆดิฉันเข้ามาเรียนปริญญาตรีได้ต้องขอบคุณทางบ้านที่สนับสนุน แต่เข้าใจว่าหลายคนทางบ้านกำลังทรัพย์คงไม่ถึง แต่ถ้าอยากเรียนวิทยาศาสตร์จริงๆ แนะนำให้เรียน เพราะจบปริญญาตรีมาทุนเยอะมาก ทุกคนแทบจะได้ทุนหมด อาจเป็นทุนช่วยสอน แต่เขาจ่ายเงินให้เรียน คือเด็กไทยเก่ง แต่ไม่ค่อยมีโอกาส การเรียนต่อนอกเป็นช่องทางหลักเลยที่จะทำให้คนไทยเข้ามาร่วมกับงานวิจัยระดับโลกเช่นนี้ได้
ผู้สื่อข่าว : มีข้อแนะนำสำหรับเยาวชนที่มีความฝัน และอยากเดินตามฝันบ้างไหม
คุณณัฐสินี : อย่างแรกเลย คือ ถ้าชอบวิทยาศาสตร์ แนะนำให้เรียน ไม่ต้องคิดว่าเก่งต้องเรียนหมอ จริงๆเก่งต้องเรียนฟิสิกส์ เพราะเรียนยากกว่า ตั้งใจเรียน ทำเกรดให้ดี ภาษาอังกฤษฝึกไว้ เพราะถ้าภาษาได้ พอเรามาเรา ถือว่านำเขาไปก้าวหนึ่งแล้ว

logoline