จลาจลในเรือนจำเม็กซิโก

นายไฮเม โรดริเกซ ผู้ว่าการรัฐนวยโวเลออง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเม็กซิโก แถลงว่า เหตุจลาจลที่เกิดขึ้นในเรือนจำโตโป ชิโค ในเมืองมอนเทอร์เรย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 52 คน บาดเจ็บ 12 คน ในจำนวนอาการสาหัส 5 คน และขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว โดยไม่มีนักโทษคนใดหนีออกไปจากเรือนจำ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยเริ่มจากการทะเลาะวิวาทกันระหว่างหัวโจกของสองแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ของประเทศ "เซตาส" กับ "กัลฟ์ คาร์เทล" และลุกลามจน กลายเป็นจลาจล แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลา 01.30 น. ตามเวลาในท้องถิ่น ภาพที่ถูกเผยแพร่ได้แสดงให้เห็นเปลวไฟพวยพุ่งขึ้นมาจากเรือนจำ โดยเป็นฝีมือของนักโทษที่จุดไฟเผาสิ่งของภายในเรือนจำ
ขณะที่ญาติของนักโทษไปรวมตัวกันอยู่ด้านนอกเรือนจำ บางคนร่ำไห้เพราะความวิตกต่อชะตากรรมของบุคคลอันเป็นที่รักที่อยู่ด้านใน
เหตุรุนแรงครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียงวันเดียวก่อนที่สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส จะเสด็จเยือนเม็กซิโก ที่รวมทั้งเสด็จเยี่ยมเรือนในเมืองซิวแดด ฮัวเรซ ที่มีชื่อกระฉ่อน เนื่องจากครั้งหนึ่งเคยได้รับฉายาว่า เมืองหลวงแห่งการฆาตกรรมของโลก
เรือนจำโตโป ชิโค ถูกระบุว่า เป็นเรือนจำที่มีสภาพแออัด นักโทษต้องนอนกันตามระเบียง ห้องขังไม่มีน้ำ ไฟฟ้า และระบบระบายอากาศ ทั้งยังเป็นสถานที่ที่สมาชิกแก๊งค้ายาเสพติดก่อเหตุทำร้ายกันและกัน ซึ่งเมื่อปี 2554 หัวหน้าผู้คุมของเรือนจำถูกลักพาตัวและถูกฆ่าหั่นศพ
ส่วนสงครามระหว่างแก๊งคู่อริ เซตาสกับกัลฟ์ คาร์เทล ทำให้เกิดการนองเลือดในรัฐนวยโวเลอองและรัฐทาเมาลิปัส ในช่วงระหว่างปี 2553-2555