“แองเจลีน่า โจลี” เตรียมพา"ดาราฮอลลีวูด"สักยันต์ "อาจารย์หนู"

เป็นข่าวฮือฮาขึ้นอีกครั้งเมื่อแฟนเพจชื่อ brangrlinanews โพสต์ภาพ แองเจลีน่า โจลี นักแสดงสาวชื่อดังก้องโลกเพิ่มรอยสัก 3 จุดในอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งตามรายงานพบว่า "โจลี ได้เพิ่มรอยสักยันต์ให้แก่ตนเองที่แผ่นหลังอีก 3 จุดจริง โดยผู้ที่สักยันต์ให้แก่นักแสดงสาวชื่อดังก็คืออาจารย์หนู กันภัย

ทั้งนี้ มีรายงานว่าอาจารย์หนูบินไปที่กัมพูชาเพื่อสักยันต์ให้แก่ดาราสาว พร้อมกับ แบรด พิตต์ สามีของโจลี ขณะทั้งคู่กำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง First They Killed My Father เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยการสักยันต์ให้แก่โจลีในครั้งนี้เป็นการสักด้วยลายอักขระมงคล ไม่ใช่การสักยันต์รูปสัตว์ หรือยันต์หนุนดวง หรือยันต์โภคทรัพย์ 5 แถวที่เคยสักให้เมื่อปี 2546 ส่วนแบรด พิตต์ ได้สักยันต์เช่นกัน โดยอาจารย์หนูได้สักยันต์ 5 แถวหนุนดวงดีบริเวณหน้าท้องด้านซ้ายบวกกับข้อความจากเพลง When The Deal Goes Down ของบ็อบ ดีแลน ท่อนที่ว่า We live, we die, we know not why, but I'll be with you"

ซึ่งเชื่อว่าสักตามลายมือของโจลีเองเพื่อ ตอกย้ำความมั่นคงเหนียวแน่นในชีวิตสมรสของทั้งคู่แม้มีข่าวระหองระแหงก่อนหน้านั้น ซึ่งอาจารย์หนูใช้หมึกเดียวกันในการสักให้แก่พิตต์และโจลี อันหมายถึงการผูกพันสามีภรรยาเข้าด้วยกัน

ด้านศิษย์ใกล้ชิดของอาจารย์หนู บอกว่า นางเอกชื่อดังพร้อมสามีได้มาสักยันต์ที่ร่างกายเพิ่มกับอาจารย์หนูระหว่างเดินทางมาถ่ายทำภาพยนตร์ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งการสักยันต์ครั้งนี้อาจารย์หนูได้สักรูปอักขระที่มีความหมายเรื่องพลังศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เป็นการสักยันต์รูปเสือ หรือยันต์ 5 แถวหนุนดวง ซึ่งพลังของรอยสักยันต์จะมีผลต่อตัวเจ้าของรอยสักเองโดยตรง ถ้าเจ้าตัวทำสิ่งไม่ดี พลังของรอยสักยันต์จะหายไปจากคนนั้น แต่ถ้าเจ้าของรอยสักทำดียันต์ก็จะช่วยปกป้องคุ้มครองด้านจิตใจ

อาจารย์หนูสักยันต์ให้โจลี และแบรด พิตต์ แต่ไม่สามารถพูดได้มาก เพราะท่านรับปากกับดาราสาวว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางมาสักยันต์ในครั้งนี้ การสักครั้งนี้อาจารย์สักให้โจลี่เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ส่วนแบรด พิตต์ สักยันต์ 5 แถวใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ลูกศิษย์อาจารย์หนู กล่าว

พร้อมกันนี้ ยังมีรายงานข่าวว่า แอลงเจลีน่า โจลี จะนำเพื่อนๆ ไฮโซและในแวดวงฮอลลีวู้ดบินมาสักกับอาจารย์หนู ที่ประเทศไทยในราวต้นเดือนหน้าอีกด้วย

สำหรับแองเจลีนา โจลี นับดาราสาวที่เคยได้รับการโหวตจากผู้อ่านนิตยสาร Vanity Fair ว่าเป็นหญิงสาวที่สวยที่สุดในโลก โดยดาราสาวผู้นี้รักการสักเป็นชีวิตจิตใจ โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2546 โจลีเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อสักยันต์กับอาจารย์หนู กันภัย โดยโจลีเชื่อว่า รอยสักเป็นมากกว่างานศิลปะบนร่างกาย แต่มีความหมายทั้งเรื่องของพลังและอำนาจที่คอยคุ้มครองช่วยปกป้องชีวิตเธอและครอบครัว รวมถึงเรื่องสุขภาพด้วยโจลีชอบการสักมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้ว ปัจจุบันมีรอยสักอยู่ทั่วตัวถึงเกือบ 20 จุด ทั้งนี้ รอยสักยันต์ใหม่กลางหลังถือเป็นการสักเพื่อสิริมงคลช่วยให้แคล้วคลาด และช่วยเรื่องสุขภาพ โดยแหล่งข่าววงในบอกว่า โจลีเป็นคนที่เชื่อว่ารอยสัก เป็นมากกว่าดีไซน์บนร่างกาย แต่มีความหมาย มีพลังและอิทธิพลบางอย่างต่อเธอจริงๆ

อย่างไรก็ตาม รอยสักที่เพิ่มขึ้นครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าโจลีมีความหลงใหลมนต์เสน่ห์แบบเอเชียไม่น้อย ไม่เช่นนั้นคงไม่เลือกการสักแบบไทย และเลือกทำหนังเรื่องใหม่เกี่ยวกับประเทศกัมพูชา แถมยังดึงเอาครอบครัวโดยเฉพาะ แมดด็อกซ์ ลูกชายคนโตมาช่วยงานนี้ด้วย แต่คงเป็นเพราะลูกบุญธรรมคนนี้เป็นชาวกัมพูชา ซึ่งโจลีมีความคิดไม่อยากให้ลูกชายลืมรากเหง้าของตัวเอง และดึงให้มาช่วยหาข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างหนังเพื่อให้เรียนรู้วัฒนธรรมเกี่ยวกับประเทศบ้านเกิดของตัวเองเอาไว้
ไม่ใช่แค่นั้น โจลียังดึงเอาลูกๆ คนอื่นเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างหนังเรื่องนี้ด้วยหมด ไม่ว่าจะเป็น แพ็กซ์ ลูกเลี้ยงชาวเวียดนาม ซึ่งคอยถ่ายภาพต่างๆ ในกองให้ผู้เป็นแม่ ส่วนลูกสาวอย่างไชโลห์ และซาราห์ ก็นำเอาข้าวของเครื่องใช้ ทั้งขนมและเสื้อผ้ามาแจกจ่ายให้เด็กๆ ชาวเขมรที่ยากจนด้วย โดยการถ่ายทำภาพยนต์ครั้งนี้ได้มีการจ้างชาวกัมพูชามาเข้าฉากในราคาวันละ 25 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 900 บาท
ทางด้าน แบรด พิตต์ หลังจากมาใช้ชีวิตครอบครัวอยู่กับ แองเจลีนา โจลี ก็เริ่มมีรอยสักตามตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากรอยสักที่มาจากเนื้อเพลง When the Deal Goes Down ของ บ็อบ ดีแลน เขายังมีรอยสักรูปไม้กางเขนที่หัวไหล่ขวา และรอยสักอักษรตัวแรกของชื่อลูกๆแต่ละคนด้วย