เนเธอร์แลนด์เผยสอบ MH17

จิบบี้ จูทรัส ประธานคณะกรรมการความปลอดภัยเนเธอร์แลนด์ หรือ DSB แถลงเมื่อเกือบหนึ่งชั่วโมงที่แล้วที่สนามบินของฐานทัพอากาศกิลเซ-ริเจนทางภาคใต้ของประเทศ เผยแพร่รายงานการสอบสวนฉบับสมบูรณ์หลังใช้เวลาการสอบสวนนาน 15 เดือนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ตกในพื้นที่สู้รบทางภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อ 17 กค.ปีที่แล้วทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้ง หมด 298 คนเสียชีวิต
รายงานระบุว่า เครื่องบินถูกยิงตกด้วยขีปนาวุธ "บุ๊ค" โดยหัวรบทะลุเข้าทางด้านซ้ายบนของห้องนักบิน โดยขีปนาวุธถูกยิงจากพื้นที่ 320 ตร.กม.ในภาคตะวันออกของยูเครน และบอกด้วยว่ามีหลักฐานเพียงพอที่ทางการยูเครนควรจะปิดน่านฟ้าเหนือภาคตะวันออกของประเทศในจุดที่มีการสู้รบ
แหล่งข่าว บอกว่า คำแถลงทำให้ญาติที่ร่วมฟังรู้สึกใจสลาย บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก พวกเขาได้นำหลักฐานบางชิ้นส่วนภายในเครื่องบินมาให้แสดงให้ดูด้วย และทั้งห้องเงียบงัน
รายงานฉบับนี้มุ่งสรุปใน 4 ประเด็น ได้แก่ สาเหตุของเครื่องบินตก การบินเหนือพื้นที่สู้รบ เหตุผลที่ญาติผู้รอดชีวิตชาวเนเธอร์แลนด์ต้องรอ 2-4 วันจึงจะได้รับการยืนยันว่าจากทางการว่าญาติของพวกเขาอยู่บนเครื่องบิน และคำถามที่ว่าคนที่อยู่บนเครื่องบินจะรู้สึกได้ถึงนาทีเครื่องบินตกมากน้อยแค่ไหน
แต่ก่อนหน้าการแถลงของ DSB เพียงเล็กน้อย บริษัท อัลมาซ- อันเตย์ ผู้ผลิตขีปนาวุธของรัสเซีย แถลงที่กรุงมอสโกของรัสเซียชี้แจงตอบโต้ข้อกล่าวหาที่มีมาก่อนหน้านี้ว่า ขีปนาวุธบุ๊คที่เป็นขีปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศเป็นต้นเหตุให้เที่ยวบินMH-17 ตก
เมื่อเดือนก.ย. 2557 คณะกรรมการความปลอดภัยเนเธอร์แลนด์ เผยแพร่รายงานผลสอบสวนเบื้องต้นว่า เที่ยวบิน MH17 แตกหักกลางอากาศหลังถูกชนด้วยวัตถุที่พุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงจากด้านนอก และไม่มีหลักฐานปัญหาขัดข้องทางเทคนิคหรือความบกพร่องของมนุษย์ DSB ระบุว่า เป้าหมายของรายงานการสอบสวนไม่ได้มุ่งระบุว่าใครยิงขีปนาวุธทำให้เครื่องบินตก
ขณะที่ก่อนหน้านี้ชาติตะวันตกเชื่อว่ามีหลักฐานบ่งชี้ได้ว่าเครื่องบินถูกยิงตกด้วยขีปนาวุธที่ผลิตในรัสเซีย โดยฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดนยูเครน แต่รัสเซียโต้ข้อกล่าวหาและกล่าวโทษว่าเป็นการกระทำของกองทัพยูเครน