ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เป็นประธานในพิธีสวนสนามเนื่องในวาระครบรอบ 70 ปี ที่จีนถือว่าเป็น"วันแห่งชัยชนะ"ที่กองทัพประชาชนจีนสามารถต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น และการสิ้นสุดของสงครามต่อต้านฟาสซิสต์ในโลก
ผู้นำจีน กล่าวด้วยว่าการต่อสู้ของชาวจีนทำให้ได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่เหนือการรุกรานของกองทัพญี่ปุ่น และทำให้สามารถจีนรักษาอารยธรรม 5,000 ปีและสันติภาพไว้ได้
ในช่วงพิธีเปิด นอกจากมีการยิงสลุตแล้ว ยังใช้เฮลิคอปเตอร์บินรวมตัวเป็นเลข 70 ขณะที่ประธานาธิบดีสี ขึ้นรถเปิดประทุนติดธงชาติจีน ด้านหน้ามีไมโครโฟน 4 ตัว กล่าวทักทายก่อนที่ทหารจะเริ่มขบวนพาเหรด ซึ่งใช้กำลังพลกว่า 12,000 นาย ยุทโธปกรณ์หนัก 500 ชนิด รวมทั้งรถถัง, ขีปนาวุธและเครื่องบินหลากหลายชนิดอีก 200 ลำ ที่ถูกระบุว่า ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุด
นอกจากนี้ยังมีทหารต่างชาติเกือบ 1,000 นายจาก 17 ชาติเข้าร่วมสวนสนามด้วยเป็นครั้งแรก และพิธีจบลงด้วยการปล่อยนกพิราบ 2015 ตัวและลูกโป่ง 50,000 ลูก
พิธีสวนสนามครั้งนี้เป็นครั้งที่ 15 นับตั้งแต่เริ่มจัดขึ้นในปี 2503 แต่เป็นครั้งแรกที่จัดขึ้น นอกเหนือจากวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งวันก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน และพิธีสวนสนามครั้งนี้ ยังตอกย้ำความประสงค์ของประธานาธิบดีสี ที่ต้องการให้ประเทศจีนผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่าใครในเอเชีย
ก่อนหน้านั้นประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และภรรยา ให้การต้อนรับบรรดาผู้นำต่างชาติราว 30 ประเทศ ตั้งแต่มองโกเลียจนถึงเวเนซุเอล่า ที่บริเวณพระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่ง ที่รวมทั้งประธานาธิบดีปัก กึน-เฮ ของเกาหลีใต้, นายบัน คี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย แต่กลับไร้เงาผู้นำระดับสูงจากประเทศประชาธิปไตยยักษ์ใหญ่ของตะวันตกที่มีบทบาทสำคัญในชัยชนะของกลุ่มสัมพันธมิตร เช่น สหรัฐ, อังกฤษ และออสเตรเลีย และไม่มีผู้นำจากญี่ปุ่นเข้าร่วมด้วย