เรือลำแรกที่บรรทุกผู้อพยพราว 50 คนส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือขณะเรืออัปปางเมื่อวันพฤหัสบดี และเรืออีกลำซึ่งบรรทุกคนเกินพิกัดโดยมีผู้อพยพมาถึงเกือบ 400 คนอัปปางในเวลาต่อมา
เจ้าหน้าที่ในเมืองซูวารา บอกว่า มีผู้โดยสารจำนวนมากติดอยู่ภายในตัวเรือตอนที่เรือพลิกคว่ำ และยามฝั่งลิเบียสามารถช่วยเหลือผู้อพยพได้ 201 คน ซึ่ง 147 คนถูกนำตัวไปยังสถานกักกักผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายในเมือง ซาบราธ่า และศพผู้เคราะห์ร้ายอย่างน้อย 100 รายถูกส่งไปที่โรงพยาบาลในซูวารา เหยื่อในเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นผู้อพยพจากซีเรีย บังคลาเทศและหลายประเทศในแอฟริกาแถบทะเลทรายซาฮาร่า
ปีนี้มีมีผู้อพยพเกือบ 2,400 คนเสียชีวิตขณะล่องเรือข้ามทะเลเมดิเตอเรเนียนไปยังยุโรป และเมื่อวันพุธเพิ่งพบศพอย่างน้อย 55 รายในเรือที่อัปปางนอกชายฝั่งลิเบีย
นอกจากนี้ตำรวจออสเตรียพบศพเน่าเปื่อยของผู้อพยพอย่างน้อย 20 รายในรถบรรทุกคันหนึ่งที่จอดอยู่บนไหล่ทางริมทางหลวงใกล้เมือง พาร์นดอร์ฟ โดยถนนสายนี้มีต้นทางจากพรมแดนที่ติดกับฮังการี และรถบรรทุกติดแผ่นป้ายทะเบียนฮังการี สภาพศพที่เน่าเปื่อย ทำให้การระบุเอกลักษณ์บุคคลและจำนวนผู้เคราะห์ร้ายทำได้ยาก และตัวเลขจริงอาจสูงถึง 50 รายได้
ปัจจุบันยุโรปกำลังเผชิญการหลั่งไหลของผู้อพยพมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และประเทศในกลุ่มบอลข่านกลายเป็นเส้นทางผ่านของผู้อพยพมากขึ้น ได้แก่ เซอร์เบียและมาเซโดเนีย เป็นต้น ล่าสุดผู้นำ 6 ประเทศในคาบสมุทรบอลข่าน และเยอรมนี รวมถึงตัวแทนกลุ่มสหภาพยุโรป ร่วมประชุมสุดยอดเพื่อหารือปัญหาเรื่องนี้ที่่กรุงเวียนนาของออสเตรียเมื่อวาน
ออสเตรียเสนอแผนรับมือผู้อพยพ 5 ข้อ ซึ่งหนึ่งในนี้ คือ จัดตั้งเขตปลอดภัยในประเทศของผู้อพยพเพื่อดำเนินการเรื่องกระบวนการขอลี้ภัย และหากผ่านเกณฑ์ ก็จะได้รับอนุญาตลี้ภัยไปยุโรป นอกจากนี้ยังมีมาตรการเพิ่มการคุ้มกันชายแดน ปราบปรามแก๊งค้ามนุษย์ และแบ่งสรรโควต้าให้ประเทศต่างๆร่วมกันรับผู้อพยพ ซึ่งแนวคิดเรื่องโควต้าถูกคัดค้านจากหลายประเทศ