น้ำท่วมใหญ่ในเมียนมาร์ ตายแล้ว 27 ราย

ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ของเมียนมาร์ พร้อมด้วยรองประธานาธิบดีเนียน ตุน เดินทางด้วยเครื่องบินไปยังเขตสะกาย หนึ่งในสี่ภูมิภาคที่ประสบกับเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (1 ส.ค. 58) หลังมีการประกาศให้ 4 พื้นที่ทางภาคตะวันตกและภาคกลางของประเทศ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วม โดยได้นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ เครื่องมือแพทย์ และยารักษาโรคไปมอบให้กับประชาชน ขณะที่ความช่วยเหลืออื่นๆ ของทั้งภาครัฐและองค์กรเอกชนยังคงพยายามเข้าไปยังพื้นที่ประสบภัยด้วยความยากลำบาก
ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ได้เพิ่มเป็น 27 รายแล้ว แต่ยังคงเป็นข้อมูลที่อัพเดตล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการติดต่อสื่อสาร ส่วนรัฐมณีปุระของอินเดียซึ่งมีอาณาเขตติดกับรัฐชินของเมียนมาร์ก็เผชิญกับอุทกภัยเช่นกัน โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 คนจากเหตุดินถล่ม
เหตุอุทุกภัยครั้งล่าสุดในเมียนมาร์ ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนแล้วอย่างน้อย 1 แสน 5 หมื่นหลังคาเรือน โดยเฉพาะในรัฐชินและรัฐยะไข่ในภาคตะวันตกที่การจราจรและการสื่อสารแทบจะเป็นอัมพาต ประชาชนต้องอพยพไปอาศัยชั่วคราวตามวัดต่างๆ และต้องการน้ำสะอาดอย่างเร่งด่วน
ขณะเดียวกัน ทูตพิเศษของสหประชาชาติประจำเมียนมาร์ได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลอย่างมากต่อเหตุการณ์นี้ และระบุว่าได้ส่งทีมลงไปในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเพื่อประเมินความช่วยเหลือที่จำเป็นแล้ว

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง พร้อมรองประธานาธิบดีเนียน ตุน เดินทางด้วยเครื่องบินประจำตำแหน่งไปยังเขตสะกาย ประเทศเมียนมาร์ หนึ่งในสี่ภูมิภาคที่ประสบกับเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ เครื่องมือแพทย์ และยารักษาโรคไปมอบให้กับประชาชน
กรมบรรเทาทุกข์และการย้ายถิ่นฐานเมียนมาร์ประเมินว่า ภัยพิบัติครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างรุนแรงมากกว่า 1 แสน 1 หมื่นคน โดยในเขตสะกาย รัฐคะฉิ่น และรัฐฉาน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 21 รายในเดือนกรกฎาคม