อินเดียร้อนจัด เกือบ 50 องศา มีผู้เสียชีวิตนับพัน

คลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมในหลายพื้นที่ของอินเดีย ได้คร่าชีวิตประชาชนไปราว 1,118 คน ในช่วงไม่ถึง 1 สัปดาห์ โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือรัฐอานธรประเทศ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ที่ทางการระบุว่า มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงถึง 852 คน และอีก 266 คน ในรัฐเตลังกานา ที่อยู่ใกล้เคียง

อุณหภูมิที่เฉียด 50 องศาเซลเซียสในกรุงนิวเดลี ยังทำให้ผิวถนนหลอมละลายอีกด้วย นอกจากนี้ สภาพอากาศร้อนจัดและความแห้งแล้งที่เกิดจากกระแสลมที่พัดมาจากจังหวัดซินด์ ของปากีสถาน ยังแผ่ปกคลุมพื้นที่ราบทางภาคเหนือและภาคกลางของประเทศ ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาอินเดีย ได้คาดการณ์ว่า อุณหภูมิจะยังคงสูงต่อเนื่องไปอีก 2 วัน ก่อนจะบรรเทาลง

แต่ก็จะคลื่นความร้อนลูกใหม่ตามมาอีกในไม่ช้า และนอกจากรัฐอานธรประเทศ และรัฐเตลังกานา ที่อยู่ทางใต้ ต้องเผชิญคลื่นความร้อนสูงแล้ว รัฐที่อยู่ทางเหนืออย่าง รัฐราชสถานกับรัฐหรยาณา ก็กำลังเผชิญความร้อนที่เข้มข้นเหมือนกับกรุงเดลี ที่เป็นเมืองหลวง และเกิดปัญหากระแสไฟฟ้าขัดข้องเพราะความต้องการสูงกว่ากำลังการผลิต

เหยื่อคลื่นความร้อนส่วนใหญ่เป็นคนที่ยากจน ขอทานและคนเร่ร่อน รวมทั้งคนงานก่อสร้างที่ทำงานกลางแดดจ้าอยู่ตามไซท์งาน และมีประชากรเพียง 1 ใน 3 จากจำนวนทั้งหมด 1,200 ล้านคน ที่เข้าถึงไฟฟ้า ย่อมหมายความว่า มีประชาชนหลายล้านคนที่ต้องทนกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด โดยไม่มีหนทางที่จะบรรเทาลงได้ หรือแม้แต่คนที่เข้าถึงไฟฟ้า ก็อาจเผชิญปัญหาไฟตก เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศ


ส่วนคนที่ไม่มีหนทางที่สร้างความเย็นในบ้าน ก็จะพากันไปหลบร้อนตามร้านค้าหรือศูนย์การค้า ที่สถานพักพิงสำหรับคนเร่ร่อนแห่งหนึ่งในกรุงนิวเดลี ที่มีคนอยู่กันอย่างแออัดถึง 360 คน พบว่า หลายคนพากันออกไปนอนข้างนอน เพราะข้างในร้อนอบอ้าวเหมือนเตาเผา โดยในขณะที่อุณหภูมิภายนอกสูงเกือบ 46 องศาเซลเซียส แต่ภายในสูงกว่าอีก 5 องศาเซลเซียส

รัฐบาล ได้จัดรายการให้การศึกษาแก่ประชาชนทางโทรทัศน์ รวมถึงสื่ออื่นๆ เพื่อเตือนไม่ให้พวกเขาออกนอกบ้านโดยไม่สวมหมวก, ให้ดื่มน้ำและสอนวิธีการอื่นๆ เพื่อบรรเทาความร้อน พร้อมกับเรียกร้องให้เอ็นจีโอ และองค์กรในสังกัดรัฐบาล เปิดแคมป์บริการน้ำดื่มสำหรับประชาชนทั่วไป

หนังสือพิมพ์ฮินดูสถาน ไทม์ส รายงานว่า กรุงนิวเดลีเผชิญอุณหภูมิสูงถึง 45.5 องศาเซลเซียส เมื่อวันจันทร์ สูงที่สุดในรอบ 2 ปี และสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูร้อนถึง 5 องศาเซลเซียส และได้ยังตีพิมพ์ภาพหน้าหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถนนสายหลักหลอมละลาย โดยเฉพาะผิวถนนที่ทาสีขาวดำเป็นทางม้าลาย ได้กลายสภาพอย่างเห็นได้ชัด

รัฐบาลประกาศจ่ายเงินชดเชยให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 1,500 ดอลล่าร์ ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชนบท และเกิดจากโรคลมแดดและภาวะร่างกายขาดน้ำ ขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงกว่ากำลังการผลิต ทำให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาไฟฟ้าดับนานหลายชั่วโมง ซึ่งยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก

สถานการณ์คลื่นความร้อนในครั้งนี้ ยังเผยให้เห็นถึงขาดการขาดโครงสร้างขั้นพื้นฐานด้านสาธารณูปโภคของอินเดียอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการที่ประชาชนจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงกระแสไฟฟ้า ซึ่งทางการ ระบุว่า ได้ลดค่าไฟฟ้าและบริการน้ำประปาฟรี แต่การยกระดับด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอื่นๆ ยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทายในระยะยาว