ฝรั่งเศสสรุปนักบินจงใจทำลายเครื่องบิน Germanwings

บริส โรบิน อัยการเมืองมาร์กเซย์ในฝรั่งเศส เปิดเผยว่า นักบินผู้ช่วยของสายการบิน Germanwings เที่ยวบิน 4U9525 ที่ตกในเขตเทือกเขาแอลป์ ที่ทางใต้ของฝรั่งเศสเมื่อต้นสัปดาห์ เป็นผู้รับผิดชอบต่อการตกของเครื่องบิน เมื่อจงใจทำลายเครื่องบิน ด้วยการกดปุ่มให้เครื่องบินลดความสูงของเพดานบินลง
แต่สำหรับเหตุผลของการกระทำดังกล่าว ยังไม่มีการเปิดเผย
นักบินผู้ช่วยรายนี้มีชื่อว่าแอนเดรียส ลูบิตซ์ วัย 28 ปี อัยการบอกว่าคดีนี้ไม่สามารถถือได้ว่าเป็นเรื่องการฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาอีกต่อไป แต่อัยการก็ย้ำว่า การกระทำของนักบินผู้ช่วย ไม่ใช่การก่อการร้าย และจากการตรวจสอบประวัติของเขา ก็ไม่พบพื้นหลังเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย
ทางสายการบินต้นสังกัดบอกว่า นักบินผู้ช่วยรายนี้ บินกับ Germanwings มาตั้งแต่เดือนกันยายน 2556 เขาจบการฝึกได้เป็นนักบินจากศูนย์ฝึกของสายการบินลุฟต์ฮันซ่า สายการบินแม่ของ Germanwings ที่เมืองเบรเมน และเริ่มบินกับ Germanwings ทันทีหลังเรียนจบ โดยก่อนก่อเหตุ เขามีชั่วโมงบิน 630 ชั่วโมง
นักบินรายนี้ มีพื้นเพมาจากเมือง มอนตาบาวเออร์ และก่อนเกิดเหตุ ก็ยังพักอยู่กับพ่อแม่ แต่มีแฟล็ตอยู่ที่ดุสเซลดอร์ฟ ซึ่งเป็นฐานของสายการบิน ซึ่งก่อนเกิดเหตุ เครื่องบินก็กำลังมุ่งหน้ามาที่เมืองนี้
มีการเปิดเผยว่าเขาเป็นนักวิ่ง และเคยลงแข่งวิ่งในท้องถิ่นอยู่หลายครั้ง สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขา ทางการเยอรมันมีแผนจะออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมภายในวันนี้ แต่ในเบื้องต้นเปิดเผยว่าไม่มีอะไรผิดปกติ
สำหรับกัปตันนั้น ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดมากนัก โดยบอกแค่ว่ามีประสบการณ์กว่า 10 ปีกับลุฟต์ฮันซ่า และ ermanwings โดยมีชั่วโมงบินมากกว่า 6 พันชั่วโมง ส่วนมากเป็นการบินกับเครื่องแอร์บัส แต่สื่อเยอรมันเปิดเผยว่าเขาชื่อ แพตทริก และมีลูก 2 คน
อัยการฝรั่งเศสหลีกเลี่ยงที่จะใช้คำว่า " ฆ่าตัวตาย " สำหรับกรณีนี้ เพราะการฆ่าตัวตายเป็นเรื่องของคนๆเดียว แต่นี่เป็นการรับผิดชอบต่อคน 150 คน จึงเรียกว่าฆ่าตัวตายไม่ได้ เขาบอกแต่เพียงว่า นักบินผู้ช่วยเป็นคนควบคุมเครื่องบิน หลังจากที่กัปตันออกไปจากห้องนักบิน คาดว่าน่าจะไปเข้าห้องน้ำ และนักบินผู้ช่วยสมัครใจยอมให้เครื่องบินลดเพดานบินลงมา และก่อนที่เครื่องจะตกกระแทก ลูบิตซ์ ยังมีสติดีอยู่
อัยการบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจงใจ ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดแน่นอน ถ้าเขาหมดสติ การตกของเครื่องจะไม่อยู่ในสภาพนี้ และก่อนจะตก เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย สำหรับผู้โดยสารคนอื่นๆ ก็อาจจะไม่รู้เลยว่าเครื่องกำลังจะตก จนกระทั่งนาทีสุดท้ายก่อนที่เครื่องจะตกระแทกพื้น เพราะจากกล่องดำบันทึกเสียงในห้องนักบิน สามารถได้ยินเสียงร้องของผู้โดยสารไม่นานก่อนเครื่องตกกระแทกเท่านั้น และนักบินผู้ช่วยก็ปฏิเสธที่จะเปิดประตูห้องนักบิน เพื่อให้กัปตันกลับเข้าไปภายใน แม้ว่ากัปตัน จะพยายามเคาะที่ประตูอย่างแรงแล้วก็ตาม
โดยระบบล็อคประตูห้องนักบินนั้นมีใช้กันมาตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 1980 แต่กระบวนการที่เข้มงวดนี้ก็กลายเป็นหลักปฏิบัติมาตรฐาน นับตั้งแต่หลังเหตุการณ์วินาศกรรมสหรัฐเมื่อ 11 กันยายน 2554 เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายเข้าควบคุมเครื่องบินโดยสารพลเรือน โดยระบบที่เครื่องบินลำนี้ใช้ จะมีกล้องวงจรปิดเพื่อให้คนที่จะเข้าไปในห้องนักบินยืนยันตัว และมีแต่คนที่อยู่ข้างในเท่านั้น ที่สามารถเปิดประตูได้
เครื่องบินลำนี้ออกเดินทางจากบาร์เซโลน่า ในสเปน เพื่อมายังดุสเซลดอล์ฟ เมื่อวันอังคาร พร้อมด้วยผู้โดยสาร 144 คน และลูกเรือ 6 นาย ในกลุ่มผู้โดยสารเป็นชาวเยอรมันอย่างน้อย 72 คน และสเปน 50 คน ขณะบินอยู่เหนือเทือกเขาแอลป์ จู่ๆเครื่องก็ลดเพดานบินเป็นเวลา 8 นาทีจนเครื่องตกในเขตหุบเขาสูง โดยที่นักบิน ไม่ส่งสัญ ญาณฉุกเฉินใด
จากกล่องดำบันทึกเสียงในห้องนักบิน ในช่วงสุดท้ายของการบิน นักบินไม่มีการพูดอะไรกัน ต่อมามีเสียงกัปตันเดินออกไปนอกห้องนักบิน และต่อมา กัปตันได้เคาะประตูเพื่อจะกลับเข้ามา แต่นักบินผู้ช่วยไม่ยอมเปิดประตู และได้นำเครื่องบินบินลง