ผู้นําคิวบา ใช้ระบบคอมมิวนิสต์ แม้คืนดีสหรัฐฯ

สมาชิกสภาของคิวบารวมทั้งประธานาธิบดีราอูล คาสโตร ยืนปรบมืออย่างกึกก้องให้กับชาย 3 คนที่ได้รับการปล่อยตัวจากสหรัฐฯ ในข้อหาเป็นสายลับให้กับรัฐบาลคิวบาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเมื่อวานนี้ หลังจากคิวบาและสหรัฐฯ ประกาศกลับมาสานสัมพันธ์ทางการทูตอีกครั้ง ยุติความหมางเมินนานกว่า 50 ปีนับตั้งแต่ยุคสงครามเย็น

ชายทั้ง 3 คนที่เดินทางมาปรากฎตัวพร้อมกับครอบครัวที่สภาเมื่อวานนี้เป็นคนดังของคิวบาที่ประชาชนทั่วไปยกให้เป็นฮีโร่ของประเทศ และมีสมยานามว่า "คิวบัน ไฟว์" และเนื่องในโอกาสนี้ ประธานาธิบดีราอูล คาสโตร ได้กล่าวขอบคุณประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯ สำหรับการตัดสินใจที่เที่ยงธรรมในการปล่อยตัวนักโทษทั้ง 3 คน และกลับมาเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างกันใหม่อีกครั้ง 

อย่างไรก็ตามผู้นำคิวบายังคงเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกการคว่ำบาตรทางการค้า และยืนยันว่าจะยังไม่เปลี่ยนระบอบการปกครองจากระบอบคอมมิวนิสต์ไปเป็นประชาธิปไตยอย่างแน่นอน พร้อมกับจบการปราศรัยด้วยคำว่า "วิว่า ฟิเดล" อันหมายถึงอดีตประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร พี่ชายของเขาที่ยังคงไม่ปรากฎตัวต่อหน้าสาธารณชนนับตั้งแต่ที่มีข่าวใหญ่เมื่อวันพุธ ทำให้หลายคนคาดการณ์ว่าสุขภาพของเขาอาจกำลังย่ำแย่

หลังจากนี้ผู้นำคิวบามีแผนหารือเพิ่มเติมกับประธานาธิบดีโอบามาในการประชุมสุดยอดผู้นำของประเทศในทวีปอเมริกาที่ประเทศปานามาในเดือนเมษายนนี้

ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ได้มีผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งในเมืองไมอามี รัฐฟลอริด้าซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่มีผู้อพยพชาวคิวบาอาศัยอยู่มากที่สุดในสหรัฐฯ ออกมาถือธงของทั้ง 2 ประเทศพร้อมกับตะโกนคำว่า "โอบามาทรยศ" เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับการสานสัมพันธ์กับประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย