สหรัฐขู่ตัดเกาหลีเหนือออกจากธนาคารโลก เพื่อตอบโต้เจาะระบบโซนี พิคเจอร์ส

โฆษกทำเนียบขาว แถลงเมื่อวานว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาใช้มาตรการตอบโต้ที่เหมาะสมกับผู้ที่เจาะระบบคอมพิวเตอร์ของโซนี พิคเจอร์ส บริษัทภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ โดยระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาความมั่นคงร้ายแรงของชาติ และมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นพฤติกรรมที่มีเจตนามุ่งร้ายโดยฝีมือของ "sophisticated actor" ที่สหรัฐฯ ระบุว่าเกาหลีเหนือมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง

ล่าสุด มีเสียงเรียกร้องการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือให้หนักหน่วงขึ้น โดยการตัดออกจากระบบธนาคารโลก แต่บางฝ่ายก็ระบุว่า อาจส่งผลกระทบต่อเกาหลีเหนือเพียงแค่วงจำกัดเท่านั้น เพราะเกาหลีเหนือเองก็ถูกคว่ำบาตรอยู่ก่อนแล้ว

พร้อมกันนี้สหรัฐฯ ประกาศจุดยืนว่าอยู่ข้างนักแสดง และบริษัท ในสิทธิการแสดงออก ที่ถือว่ามีค่ามากที่สุด และไม่ควรเกิดการข่มขู่ ในกรณีที่คุณเพียงไม่เห็นด้วยกับเรื่องนั้นๆ เท่านั้น

โดยแฮคเกอร์ที่โจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของโซนี พิคเจอร์สเมื่อปลายเดือน พ.ย.ได้ขู่ก่อเหตุโจมตีคล้ายวินาศกรรม 11 ก.ย.กับโรงภาพยนตร์ที่ฉายภาพยนตร์ล้อเลียนผู้นำเกาหลีเหนือจนทำให้โซนี พิคเจอร์ส ค่ายภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ต้องยกเลิกการฉายแล้ว

ในขณะที่ผู้สร้างภาพยนตร์และนักแสดงในวงการฮอลลีวู้ด แสดงความไม่พอใจกรณีที่บริษัทโซนีพิคเจอร์ ยกเลิกการฉายภาพยนตร์เรื่อง The Interview หนังล้อเลียนเกาหลีเหนือ ที่เดิมมีกำหนดลงโรงวันที่ 25 ธันวาคมนี้ ภายหลังมีคำขู่จากแฮกเกอร์ที่โจมตีทางไซเบอร์มาแล้ว นักแสดงที่ออกมาวิจารณ์รวมถึงเซธ โรแกนและเจมส์ ฟรังโก สองดารานำในเรื่อง และส่วนใหญ่มองว่าเป็นการยอมจำนนต่อแฮคเกอร์ บ้างว่าการยกเลิกฉายหนังเท่ากับละเมิดเสรีภาพแสดงความคิดเห็น

ร๊อบ โลว์ ทวีตข้อความว่าเหมือนทุกคนถูกทึ้ง แฮคเกอร์ชนะ และเป็นชัยชนะที่สุดแสนจะสมบูรณ์สำหรับพวกเขา สตีฟ คาร์เรล ทวีตข้อความว่าเป็นวันที่น่าเศร้าสำหรับการแสดงออกทางครีเอทีฟ , เบน สตีลเลอร์ , จัดด์ อพาโทว์ นักแสดงชื่อดังก็ได้วิจารณ์ประเด็นนี้ผ่านทวิตเตอร์

ซัค บราฟ ที่ทำงานในภาพยนตร์เรื่อง Oz เขียนข้อความว่า "การยกเลิกฉายภาพยนตร์ the interveiw เป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างมาก และภายหลังได้ทวีตข้อความพร้อมรูปภาพของนาย Dennis Rodman นักบาสเก็ตบอลชื่อดัง ว่ามีเพียงคนเดียวบนโลก ที่จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้