ทหารสหรัฐฯ ปะทะกับนักรบไอเอสในอิรัก

ผู้บัญชาการในสมรภูมิในอิรักเมื่อวันอังคารเปิดเผยว่า กองกำลังทหารสหรัฐ พร้อมยุทโธปกรณ์ขนาดกลางและเบา ภายใต้การสนับสนุนของเครื่องบินรบ F18 สามารถโจมตีนักรบไอเอส จนล่าถอยในจังหวัดอันบาร์

ซึ่งเป็นการปะทะกันทางภาคพื้นดินครั้งแรกเมื่อเที่ยงคืนของวันจันทร์ หลังมีการโจมตีทางอากาศต่อที่มั่นหลายแห่ง โดยการปะทะกันใช้เวลากว่า 2 ชั่้วโมง ทำให้ฝ่ายไอเอสสูญเสียอย่างหนัก การปะทะกันครั้งนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากกลุ่มไอเอส เข้าใกล้ฐานทัพ ไอน์ อัล-อาซ้าด ที่มีทหารที่ทำหน้าที่ที่ปรึกษาของสหรัฐ ประจำอยู่ 100 นาย

นับเป็นชัยชนะครั้งแรก หลังทหารอิรักตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ติดต่อกัน 6 สัปดาห์ และกลุ่มไอเอสยึดครองพื้นที่ในจังหวัดอันบาร์ ทางตะวันตกของประเทศ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สร้างความวิตกต่อความปลอดภัยของทหารอิรักที่หลงเหลืออยู่ และพันธมิตรชาวสุหนี่ที่พยายามปกป้องเมืองใหญ่ๆ และค่ายทหารในจังหวัดอันบาร์ ขณะที่กระสุนปืนมีอยู่จำกัดและเทียบไม่ได้กับอาวุธที่ก้าวหน้าของพวกไอเอส ที่รวมทั้งรถถังด้วย

จังหวัดอันบาร์ มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุด กินพื้นที่ 1 ใน 3 ของอิรัก และมีพรมแดนติดกับซีเรีย, จอร์แดนและซาอุดิอาระเบีย นอกจากนี้ ยังอยู่ติดกับกรุงแบกแดด และพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดอันบาร์ตกอยู่ในมือของกลุ่มไอเอสแล้ว

หลังถูกระดมโจมตีอย่างหนัก พวกไอเอสปลุกระดมให้สมาชิกโจมตีผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน ทั้งในสหรัฐและแคนาดา รวมถึงสังหารตัวประกันชาวตะวันตกทุกคนที่จับได้ และพวกเขาพยายามเสนอขายศพของเจมส์ โฟลีย์ ผู้สื่อข่าวที่ถูกฆ่าตัดศีรษะ เป็นเงินถึง 1 ล้านดอลล่าร์ พร้อมกับเสนอส่งตัวอย่าง DNA ไปพิสูจน์ที่ตุรกี เพื่อยืนยันว่า เป็นศพของโฟลีย์จริง แต่มีเงื่อนไขว่าต้องจ่ายเงินก่อน พวกเขาถึงจะยอมให้ DNA