ผู้นำสหรัฐและภรรยาเผย เคยถูกเหยียดผิว

ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า และนางมิเชล สุภาพสตรีหมายเลข 1 เปิดเผยว่าเคยตกเป็นเหยื่อของการถูกเหยียดผิวเช่นกัน โดยโอบาม่าเคยถูกคนเข้าใจผิดว่าเป็นพนักงานรับรถ และถูกยื่นกุญแจรถให้ตอนที่อยู่หน้าร้านอาหาร หลังเพิ่งเสร็จจากการรับประทานอาหารค่ำ โดยนางมิเชล ให้สัมภาษณ์นิตยสารพีเพิล เมื่อช่วงต้นเดือนว่า ขนาดสามีของเธอสวมชุดสูททักซิโด ยังมีคนเรียกให้เขาเอากาแฟไปเสิร์ฟให้

ส่วนนางมิเชล ถูกเข้าใจว่าเป็นพนักงานของร้านทาเก็ต ทั้งที่ตอนนั้นเธอเป็นสุภาพสตรีหมายเลข 1 โดยลูกค้าคนหนึ่งในร้าน บอกให้เธอหยิบของในชั้นวางให้

ประธานาธิบดีโอบาม่า กล่าวว่า เรื่องเกี่ยวกับการเหยียดผิวในขณะนี้ดีกว่าเมื่อก่อน แต่ยังต้องมีความก้าวหน้ามากกว่านี้ การเปิดเผยประสบการณ์ของทั้งสองคนเกิดขึ้นหลังเกิดกระแสโกรธแค้นต่อปัญหาการเหยียดผิว สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่ไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวดำวัย 18 ปี ถูกตำรวจผิวขาวยิงเสียชีวิต ที่เมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี่ และอิริค การ์เนอร์ ชายผิวดำ ที่ถูกตำรวจผิวขาวล็อคคอเสียชีวิตที่นครนิวยอร์ค

ซึ่งโอบาม่า แสดงความเห็นว่า ซูเปอร์สตาร์ NBA เลอ บรอน เจมส์ ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่สวมเสื้อยืด "'I can't breathe" เพื่อสะท้อนเสียงร้องของการ์เนอร์ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ลงไปในสนามแข่งขันผู้นำสหรัฐ บอกด้วยว่า เขาสอนลูกสาวสองคน คือ เมเลีย วัย 16 ปี และซาช่าวัย 13 ปีไม่ให้คิดว่า ปัญหาทุกอย่างจะสามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาอันสั้น และบอกด้วยว่า การเลี้ยงดูเด็กผิวดำ ก็ต้องพูดคุยกับพวกเขาให้เข้าใจเรื่องปัญหาการเหยียดผิวด้วย เพราะมันเป็นเรื่องจริง