เมืองเฟอร์กูสันกลับมาสงบ หลังจลาจล 2 คืน
บรรยากาศในเมืองเฟอร์กูสันของสหรัฐสงบลงเมื่อวาน หลังเผชิญจลาจลติดกันสองคืนนับจากคณะลูกขุนไม่ตั้งข้อหาตำรวจคดียิงวัยรุ่นผิวดำ ขณะที่สื่อเปิดเผยเนื้อหาเอกสารหลักฐาน ที่บ่งชี้ว่าพยานให้การขัดแย้งกันและบางคนกุเรื่องขึ้น
ท้องถนนหลายสารในเมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรีสงบลงเมื่อวันพุธ โดยยังมีทหารรักษาดินแดนอารักขาความปลอดภัยในหลายจุดสำคัญ รวมถึงสำนักงานตำรวจของเมือง โดยประชาชนต้องการให้บ้านเมืองกลับสู่สภาพปกติก่อนที่จะเข้าสู่วันขอบคุณพระเจ้าในวันนี้
ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีต้องเพิ่มกำลังทหารรักษาดินแดนจากราว 700 นายเป็น 2,200 นายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย หลังจากคำตัดสินของคณะลูกขุดชุดใหญ่เมื่อคืนวันจันทร์ที่ไม่ตั้งข้อหากับนายดาร์เรน วิลสัน ตำรวจผิวขาวกรณียิงไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวดำ วัย 18 ปีเสียชีวิตเมื่อเดือนส.ค. จุดชนวนความโกรธแค้นทำให้เกิดการประท้วงรุนแรงทันทีจนบานปลายกลายเป็นจลาจลต่อเนื่องถึงคืนวันอังคาร ทำให้อาคารหลายหลังและรถยนต์ถูกเผาจำนวนมาก และร้านค้าถูกปล้นสะดม มีผู้ถูกจับกุมราว 110 คน นอกจากนี้การประท้วงยังลุกลามบานปลายไปหลายเมืองทั่วประเทศ ทำให้มีผู้ถูกจับกุมทั่วประเทศรวมกว่า 400 คน
ขณะที่ในเมืองเซนต์หลุยส์ มีผู้ประท้วงกลุ่มเล็กๆชุมนุมหน้าศาลาว่าการเมืองเมื่อวันพุธ โดยมีนักเคลื่อนไหวแสดงละครจำลองการพิจารณาคดีวิลสัน และผู้ประท้วงบางส่วนพยายามบุกเข้าไปในศาลาว่าการเมืองทำให้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไป
ด้านครอบครัวของบราวน์เป็นหนึ่งในสามครอบครัวของเหยื่อผิวดำที่ถูกตำรวจยิงเสียชีวิตในช่วงเร็วๆนี้ ได้มีโอกาสพบปะกับสาธุคุณอัล ชาร์ปตัน นักเคลื่อนไหวสิทธิพลเมืองในนครนิวยอร์กเมื่อวาน และครอบครัวของบราวน์กล่าวว่ารู้สึกใจสลายเมื่อทราบคำตัดสินของคณะลูกขุน นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่าคำให้สัมภาษณ์ของวิลสันกับสถานีโทรทัศน์เอบีซีเป็นเรื่องโกหกและไม่น่าเชื่อถือ
ขณะที่มีรายงานว่าเอกสารหลายพันหน้าที่ถูกส่งให้คณะลูกขุนชุดใหญ่พิจารณาในคดีนี้พบว่า พยานหลายคนให้การขัดแย้งกัน บางคนกุเรื่อง หรือให้การตรงกับความเป็นจริง และบางคนไม่ได้เห็นเหตุการณ์เลย นอกจากนี้พยานบางคนให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ ก่อนให้การต่อคณะลูกขุนโดยเนื้อหาไม่เหมือนกัน โดยประเด็นที่ไม่ตรงกันมีทั้งเรื่อง บราวน์ถูกยิงอย่างไร ใครยั่วยุก่อน และบราวน์ชูมือขึ้นหรือไม่ตอนที่ถูกยิงเป็นต้น