เม็กซิโกปิดถนนประท้วง หลังนักศึกษา 43 คน ถูกฆ่า

ผู้ประท้วงราว 300 คนชุมนุมใกล้สนามบินในกรุงเม็กซิโกซิตี้เมื่อวานและบางคนขว้างปาระเบิดเพลิงและดอกไม้ไฟใส่ตำรวจที่พยายามเข้าขัดขวาง นับเป็นการประท้วงรุนแรงครั้งล่าสุดหลังจากนักศึกษา 43 คนถูกตำรวจลักพาตัวในเมืองอิกัวล่ารัฐเกอร์เรโร่ เมื่อปลายเดือนก.ย.และส่งตัวให้แก๊งค้ายาเสพติดสังหารหมู่ ผู้ประท้วงปิดกั้นถนนสายหลักมุ่งสู่สนามบินนานหนึ่งชั่วโมง ทำให้ผู้โดยสารจำนวนมากต้องเดินเท้าไปยังสนามบินและตำรวจได้ส่งรถไปรับผู้โดยสารเหล่านั้นไปที่สนามบิน


หลังจากนั้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมามีผู้ประท้วงหลายหมื่นคน ซึ่งรวมถึงญาติของนักศึกษาที่ตาย เดินขบวนมุ่งหน้าไปยังจตุรัส โซกาโล หน้าทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงเม็กซิโกซิตี้ และตะโกนเรียกร้องให้ประธานาธิบดีเอนริเก้ เปญ่า เนียโต้ ลาออกจากตำแหน่ง เพราะไม่พอใจที่รัฐบาลล้มเหลวในการปราบปรามอาชญากรรม การประท้วงเกิดขึ้นเนื่องในวันครบรอบ 114 ปีการปฏิวัติโค่นล้มผู้นำเผด็จการปอร์ฟริโอ้ดิแอซ ในปี 2453 ทำให้รัฐบาลต้องยกเลิกการจัดพิธีสวนสนามประจำปี
ขณะที่นายซัลวาดอร์ ซิเอนฟูกอส รัฐมนตรีกลาโหม เตือนว่า ความรุนแรงมีแต่จะนำพาประเทศไปสู่ความล้มเหลวและไร้เสถียรภาพเมื่อเร็วๆ นี้ สมาชิกแก๊งยาเสพติด เกอร์เรรอส ยูนิดอส ที่ถูกจับกุม ยอมรับสารภาพว่าได้ฆ่าและเผาศพนักศึกษา หลังตำรวจที่รับสินบนลักพาตัวนักศึกษาและส่งตัวให้พวกเขา โดยนายกเทศมนตรีเมืองอิกัวลามีส่วนบงการก่อเหตุ เพื่อสกัดไม่ให้นักศึกษาไปประท้วงก่อกวนในงานที่ภรรยาของเขาจะไปร่วม