สหรัฐพบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบล่าคนแรกในประเทศ

ชายคนหนึ่งที่เพิ่งเดินทางจากไลบีเรียไปยังรัฐเท็กซัสเมื่อไม่นานมานี้ ได้รับการยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบล่าคนแรกที่ถูกตรวจพบในสหรัฐ โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือ CDC เปิดเผยเมื่อวันอังคาร หรือ 2 วันหลังจากผู้ป่วยเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเท็กซัส เฮลธ์ เพรสไบทีเรียน โฮสพิทอล ดัลลัส หลังแสดงอาการต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสอีโบลา แต่ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อผู้ป่วยและไม่ได้ระบุว่าเป็นชาวอเมริกันหรือไม่

เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลนำตัวผู้ป่วยไปเข้ารับการกักโรคอย่างเคร่งครัด และส่งตัวอย่างเลือดไปยังห้องแลปของรัฐและของรัฐบาลกลางเพื่อทำการทดสอบ และผลออกมาตรงกันว่าเขาติดเชื้อไวรัสมรณะ ที่คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 3,000 คนจากผู้ติดเชื้อกว่า 6,500 คน ในแอฟริกาตะวันตกในปีนี้


CDC ได้ส่งทีมเดินทางไปยังรัฐเท็กซัส เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจสอบว่าผู้ป่วยติดต่อกับใครบ้างนับตั้งแต่เดินทางกลับสหรัฐเพื่อติดตามผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อ และมีรายงานว่าผู้ป่วยไปเยี่ยมสมาชิกในครอบครัวและพักอยู่กับพวกเขาในสหรัฐ หลังกลับจากไลบีเรีย เมื่อ 20 กันยายน แต่ไม่มีอาการป่วยจนกระทั่งวันที่ 24 กันยายน และเขาไปโรงพยาบาลเมื่อ 26 กันยายน ก่อนถูกส่งกลับบ้าน แต่เข้าโรงพยาบาลอีกครั้งเมื่อ 28 กันยายน

และช่วงที่เขาเดินทางถึงสนามบินและได้รับการวัดไข้เช่นเดียวกับผู้โดยสารคนอื่นๆ ภายใต้มาตรการป้องกันไว้ก่อน พบว่าไม่มีไข้ ทำให้เชื่อว่าความเสี่ยงที่จะทำให้ผู้โดยสารบนเที่ยวบินเดียวกันติดเชื้อเป็นศูนย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในดัลลัสพยายามอธิบายเพื่อไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนกและหวาดกลัว โดยบอกว่า การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ง่ายกว่าติดไวรัสอีโบล่าเพราะไวรัสอีโบลาต้องติดต่อผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งในร่างกาย