อดีตทหารมะกันพร้อมอาวุธ บุกทำเนียบขาว

เดวิด มัดด์ ผู้ช่วยอัยการแจ้งต่อผู้พิพากษาในศาลเมื่อวานว่า โอมาร์ กอนซาเลส ทหารผ่านศึกวัย 42 ปีที่ปีนรั้วบุกเข้าไปในทำเนียบขาวในค่ำวันศุก มีกระสุนปืนกว่า 800 นัด รวมทั้งมีดใบกว้าง 1 เล่มและขวาน 2เล่มในรถยนต์ของเขาที่จอดใกล้ทำเนียบขาว

ทหารนายเคยเข้าร่วมสงครามในอิรัก 2 ครั้ง และลาออกจากราชการในเดือน ธ.ค.2555 เนื่องจากพิการเขาเคยถูกจับข้อหาขับรถโดยประมาทในรัฐเวอร์จิเนียเมื่อเดือนก.ค.และตรวจค้นรถพบปืนและแผนที่ที่ทำเครื่องหมายวงกลมตรงจุดที่เป็นทำเนียบขาวแต่ได้รับประกันตัวและอีกครั้งหนึ่งเขาถูกสกัดที่ด้านนอกทำเนียบขาวเมื่อเดือน ส.ค.แต่ไม่ถูกจับกุมและค้นตัวพบขวานเหน็บไว้ที่เอวด้านหลัง และตรวจค้นรถยนต์พบเพียงอุปกรณ์ตั้งแคมป์และสุนัข 2 ตัว

ส่วนการบุกรุกทำเนียบขาวครั้งนี้ เขาถูกตั้งข้อหาบุกรุกพื้นที่หวงห้ามขณะมีอาวุธอันตรายและหากถูกตัดสินว่ากระทำผิดจริงอาจต้องโทษจำคุกถึง 10 ปี

ผู้ช่วยอัยการระบุว่า ผู้บุกรุกรายนี้เป็นภัยอันตรายต่อประธานาธิบดีและผู้พิพากษาอนุญาตให้ฝากขังระหว่างรอการไต่สวนครั้งต่อไปในวันที่ 1 ต.ค.ขณะที่ครอบครัวและเพื่อน เผยต่อสื่อมวลชนว่า กอนซาเลซ ป่วยด้วยโรคเครียด หลังเหตุการณ์สะเทือนใจจากการปฏิบัติหน้าที่พลซุ่มยิงในสงครามอิรัก แต่ศาลไม่อนุมัติคำขอให้มีการประเมินสภาพจิตแต่อย่างใด

ภาพจากล้องวงจรปิดเผยให้เห็นกอนซาเลซวิ่งไปทั่วสนามหญ้าในทำเนียบขาว หลังปีนข้ามรั้วเข้าไปได้และในตัวพกมีดพับยาว 9 ซม. ขณะเกิดเหตุประธานาธิบดีโอบามาและลูกสาวสองคนเพิ่งเดินทางออกจากทำเนียบขาวด้วยเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปพักผ่อนที่แคมป์เดวิด

ทำเนียบขาวเปิดเผย ประธานาธิบดีแสดงความกังวลเรื่องนี้อย่างมาก แต่ยังมั่นใจในความเป็นมืออาชีพของหน่วยอารักขาความปลอดภัยประธานาธิบดี และมีรายงานว่าหน่วยอารักขาความปลอดภัยได้เพิ่มการลาดตระเวนรอบรั้วทำเนียบขาวและติด กล้องวงจรปิดเพิ่มขึ้น รวมทั้งเปลี่ยนขั้นตอนการตรวจสอบเพื่ออนุญาตให้เข้าไปภายในทำเนียบขาวแล้ว

เจห์ จอห์นสัน รมต.ความมั่นคงภายใน เรียกร้องให้ชาวอเมริกันอย่าสงสัยต่อการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีเวลาไม่กี่วินาทีในการรับมือสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะที่คณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรนัดประชุมในวันที่ 30 ก.ย.เพื่อซักถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเหตุการณ์ละเมิดความปลอดภัย